"น้องแบม" มั่นใจสภาคณาจารย์ มมส.ทำเต็มที่สอบข้อเท็จจริงหลังถูกอาจารย์สั่งกราบเท้าเจ้าหน้าที่ทุจริต เผยถูกทุบหลังระบายอารมณ์ถึงสองครั้ง
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสัวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ของ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมุนษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) จนนำไปสู่การสอบสวนข้อเท็จจริงจาก คสช.และ ป.ป.ท.จนพบมูลความผิด และมีการขยายการสอบสวนไปทั่วประเทศ ขณะที่ สภาคณาจารย์ มมส. ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีคณาจารย์ที่รับผิดชอบนักศึกษาในหลักสูตรที่ไม่ปกป้องนักศึกษาที่นำข้อมูลทุจริตมาแจ้ง
ล่าสุด น.ส.ปณิดา กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดมอบให้สภาคณาจารย์ มมส.และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งขึ้นโดยสภามหาวิทยาลัยฯ แล้ว โดยส่วนตัวมั่นใจว่าคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นนั้นจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวทั้งหมด เชื่อว่าในเร็วๆนี้จะสรุปข้อมูลการสอบสวนและออกแถลงการณ์ได้
"วันนี้มีคนมองหนูในหลายมุม โดยเฉพาะใน มมส. มีทั้งที่มองว่าเป็นต้นเหตุจนมีเรื่องต่างๆ และมีผลกระทบกับคนเป็นวงกว้าง แต่ส่วนใหญ่ให้กำลังใจว่าทำถูกต้องแล้วและทำหน้าที่ในการเป็นนิสิต มมส.ได้อย่างเต็มที่เพราะสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผู้ที่กระทำผิดกฎหมายก็ควรได้รับโทษ และที่สำคัญการกระทำที่ผ่านมาหนูยืนหยัดชัดเจนในการปกป้องศักดิ์ศรีของ มมส. ปกป้องศักดิ์ศรีของคณาจารย์ ปกป้องศักดิ์ศรีของนิสิต มมส.ทุกคน เพราะเรื่องนี้มีการให้ข้อมูลกับอาจารย์ที่ปรึกษาและรับรู้กันทั้งภาควิชาและ คณะมนุษยฯ แต่กลับเป็นว่านิสิตที่ฝึกงาน 4 คนและถูกสั่งให้ทำผิดต้องออกมารับผิดเสียเองโดยที่อาจารย์ไม่สนใจหรือใส่ใจ หรือรับฟังอะไรแม้แต่น้อย"น.ส.ปณิดากล่าว
น.ส.ปณิดา กล่าวอีกว่า เรื่องนี้มีการนำข้อมูลมาแจ้งกับอาจารย์แล้วตั้งแต่นักศึกษาพบว่ามีการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ส่อไปในทางทุจริต แต่อาจารย์บอกว่านิสิตที่ไปฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นนั้นเป็นเด็กเลี้ยงแกะ และเมื่ออาจารย์ได้ไปพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก็ไม่รับฟังนักศึกษา พร้อมสั่งให้นักศึกษากราบเท้าเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดเพื่อขอโทษ และให้เรื่องจบลงไป แต่ด้วยความเป็นนิสิตที่ได้รับการฝึกสอนจากคณาจารย์ที่ให้ยืนยันบนความถูกต้องและสู้เพื่อคนยากจนในการเป็นนักพัฒนาชุมชนที่ดี จึงมีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง คสช. จนนำมาสู่การสอบสวน
"เมื่อเจ้าหน้าที่คสช.และ ป.ป.ท. เริ่มลงพื้นที่และเริ่มมาสอบปากคำนักศึกษาในมหาวิทยาลัยฯ หัวหน้าภาควิชาฯยังคงได้เรียกหนูเข้าไปในห้องเพื่อสอบถามว่าทำไมทำแบบนี้ ทำไมต้องทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น หัวหน้าภาควิชาฯยังบอกว่า ถ้าจะร้องเรียนทำไมไม่ให้เรียนจบก่อน ทำแบบนี้ทำไม หน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบทำอะไรไม่ได้หรอก จากนั้นหัวหน้าภาควิชา ยังได้ใช้มือทุบหลังหนู 2 ครั้งเหมือนจะระบายอารมณ์ ซึ่งหนูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทุบตีหนูด้วย ทั้งที่เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง"
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ