เปิดใจครั้งแรก!! ‘หนูแหม่ม’เคลียร์ปมชัดในรอบ10ปี ยังโกรธ ‘แหม่ม คัทลียา’อยู่ไหม?(มีคลิป)





 

เปลี่ยนชีวิตไปเลยตอนนี้ แหม่ม สุริวิภา ที่หันมาดูแลตัวเอง ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย จากสาวร่างอวบกลายเป็นสาวสุขภาพดีเริ่มมีซิกซ์แพ็ก ล่าสุด หนูแหม่ม สุริวิภา เปิดใจเป็นครั้งแรกถึงน้องสาว แหม่ม คัทลียา ว่าตอนนี้กลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม หลังเกิดเหตุการณ์ข่าวฉาวเมื่อสิบกว่าปีก่อน

กับแหม่ม แคทลียา ตอนนี้เป็นเพื่อนกันหรือยัง “จริงๆเราคุยมาได้ตั้งนานแล้วนะคะ แค่เรายังไม่ได้ร่วมงานกันแค่นั้นเอง”

กลับมาครั้งนี้รักกันมากกว่าเดิมมั้ย “รัก เป็นน้อง เหมือนเดิม หนูแหม่มเป็นคนที่พอรักแล้วไม่มีขยักไว้ มันยังรักอยู่ ไม่ได้หมายความว่า วันที่เรามีปัญหากันไม่ได้รัก เพียงแต่ว่าในวันนั้นมันมีอะไรบางอย่างที่มันมาบัง ความโกรธ ความโมโห ความเป็นตัวของตัวเอง ทิฐิ อีโก้ หรือทุกอย่างมันบังความรักอันนั้นอยู่ ความรักมันไม่ได้หายไป มันก็ยังอยู่ตรงนั้นแหละ”

 

 

 

ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงดูดี ดูผอมได้ขนาดนี้ “คนเค้าดูแลสุขภาพร่างกายกันทั่วบ้านทั่วเมือง เราจะไม่ดูแลก็ไม่ไหว จริงๆมันไปถึงพีคสุดที่เป็นขีดแดงแล้วในเรื่องของเบาหวาน ไขมัน โรคต่างๆก็รออยู่แล้ว ตอนนั้นพี่หนัก 90 โล”

มากสุดในชีวิต “ใช่ มากสุด เคย 95 โลด้วย ตอนที่เราอยากมีลูกเราก็ขุนนิดนึง พออายุเริ่ม 51 ก่อนหน้านี้ 2 ปี ร่างกายมันก็เริ่มรู้สึกว่าถึงขีดแดงละ หมอบอกว่าถ้าเลยจากนี้ไป คุณหนูแหม่มก็ต้องเตรียมใจยอมรับหากเกิดโรคอะไรขึ้น

 

 

พี่ปรึกษากับพี่บ๊อบบี้รึเปล่า “ทุกปีเราจะตรวจสุขภาพอยู่แล้ว ก็จะเป็นตัวบอกเราอยู่แล้ว เราก็ไม่แคร์มันไงที่ผ่านมา ก็ฉันมีตังค์ ฉันทำงานเหนื่อย ฉันก็ต้องกินอาหารดีๆ อันที่มันดีๆมันก็ทำลายสุขภาพพอสมควร เราไม่ได้เลือกเลย เราก็จัดดีทุกมื้อ (หัวเราะ) อีกอย่างคือเราอยากเล่นสโนว์บอร์ด พอไปเล่นครั้งแรกสงสารครูมาก เพราะเราล้มเป็นร้อยๆครั้งเลยต่อวัน แล้วครูที่สอนเราเค้าต้องดึงเราในร่างที่น้ำหนัก 90 โล เค้าคงหลังร้าวไปหลายวัน เราเลยมานึกว่าเราสร้างภาระให้กับคนอื่นได้ขนาดนี้เลยหรอ เราเลยรู้สึกว่าเราต้องกลับมาทำอะไรแล้วหละ แล้วสโนว์บอกร์ดเนี่ยที่เล่นเพราะบ๊อบบี้เลือกให้ มันท้าทาย”

ตอนนี้กลายเป็นกีฬาที่ชอบที่สุดแล้ว “ก็ยังเล่นได้ทุกอัน แต่อยากเปลี่ยนเป็นสกี พอเราเล่นกีฬาหนักๆเข้า เราออกกำลังกายมากๆ พอร่างกายเรามันสนับสนุน ให้เราสามารถทำอะไรต่อได้อีก มันจะมีความคิดเลยว่า ต่อไปนี้ผู้หญิงอายุ 51 กำลังจะเข้าสู่วัยเกษียน ต้องไม่นับถอยหลังซิ เพราะคนส่วนใหญ่เมื่อถึงวัยเกษียนจะเริ่มนับถอยหลังละ นั่งเลี้ยงหลาน รถน้ำต้นไม้ ไปวัด นั่งสมาธิ ทุกคนก็จะเรียกเราเป็นมนุษย์ป้าในที่สุด เราก็เลยรู้สึกว่าเราจะไม่เป็นอย่างนั้น เราก็เลยบอกกับตัวเองเมื่อไหร่ก็ตามที่อายุฉันกำลังจะถึงวัยเกษียน ในทุกๆปีฉันจะต้องมีอะไรใหม่ๆ ทำให้เป็นหนึ่งอัน มันเป็นเหมือนการตั้งปณิธานสำหรับตัวเอง ครั้งแรกหนูแหม่มท้าทายด้วยการเล่นโยคะ โยคะเราก็จะมาถึงสุดทางละ เราต้องทำอะไรต่อ ปีหน้าจะเรียนสกี”

จากสาวร่างอวบมาเป็นร่างฟิต ร่างดีขนาดนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ตัวเองมั้ย “ไม่เปลี่ยนนะคะ หนูแหม่มก็ยังเป็นหนูแหม่มเหมือนเดิม เพียงแต่เราสามารถเลือกที่จะเล่นกิจกรรมอื่นๆได้สะดวกขึ้น ได้สบายขึ้น เสื้อผ้าก็ไม่ต้องไปตัดแล้ว ปกติถ้าไปรายการต่างๆคนอื่นเค้าก็จะยืมหรือทางร้านซัพพอร์ตให้ แต่ของเราต้องใช้ตัด”

ลองไล่ให้ฟังหน่อยได้มั้ย พี่หนูแหม่มใช้วิธียังไงบ้าง “โยคะอันแรกเลย ตอนแรกยังไม่ได้ดูแลอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ดูแลอาหารการกินเลย เล่นโยคะอย่างเดียว เล่นโยคะเกือบตายเล่น 5 เดือน น้ำหนักลงไป 2 โล เล่นทุกวันบางครั้งเล่น 2 รอบเลย เราเลยต้องกลับมาดูว่าทำไมน้ำหนักเราไม่ลง จนมาใน 60 days challenge ของวู้ดดี้ โค้ชก็จะมาสอนเราว่าต้องทำยังไง ใน 60 days challenge เราลดลงไป 8 กิโล จนเราเกิดอุบัติเหตุตอนเล่นสโนว์บอร์ดต้องผ่าตัดไหล่หยุดออกกำลังไปสามเดือน น้ำหนักเพิ่มขึ้น 10 โล”

พี่หนูแหม่มทำเองไม่ได้มีผู้จัดรายการหรือโปรดิวเซอร์สั่งให้ลดหรือเปลี่ยนแปลงใชมั้ย “ไม่มีๆ ทำเอง”

แล้วเรื่องรายการดูดวงที่ถูกเปลี่ยนพิธีกรหรือรายการตอนเช้าที่ปิดไปจริงๆแล้วเพราะอะไร “จริงๆมันคงเป็นวาระของรายการ ตลอดอายุการทำงานในอาชีพนี้มามันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรายการไหนก็ได้ เราไม่ได้เป็นเจ้าของรายการ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเป็นไปตามที่ผู้ว่าจ้างบอก อย่างรายการที่ดูดวงทางผู้จัดบอกว่าทางสถานีต้องการเปลี่ยนรูปแบบพิธีกรให้แซ่บขึ้น

ถ้างั้นเรียกได้ว่าโดนถอน “ใช่ค่ะ จะโดนถอด โดนถอน จะเลิกจ้างหรืออะไรก็แล้วแต่จะบัญญัติ”

ตอนแรกทุกคนเข้าใจว่าพี่แหม่มเบื่อ เพราะทำมา 11 ปีแล้ว “การทำงานสำหรับหนูแหม่ม หนูแหม่มเติบโตมาในอาชีพเดียว จะไม่มีวันเบื่ออาชีพของตัวเองเลย ผู้จ้างจับเราไปวางไว้ตรงไหนเมื่อเห็นเหมาะสมเราก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด”

จบสวยมั้ย “จบสวยค่ะ คุยกันปกติ”

แล้วรายการเช้าที่ทำกับโอปอล์ล่ะ “อันนั้นช่อง PPTV บางทีเราแค่อยากลอง อันนั้นสถานีเค้าปรับนะคะ ปรับตารางเวลา จริงๆเราเซ็นสัญญกัน 6 เดือน แต่จบกันที่ 4 เดือน แต่ไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายอะไรนะคะ เพราะเรารู้สึกว่าเราแก่เกินไปที่จะตื่นเช้ามากค่ะ เราแฮปปี้มากที่มีการเปลี่ยนแปลง”

แสดงว่าเป็นด้วยร่างกายของเราเองไม่ได้เกี่ยวกับว่าค่าตัวเราแพง “หนูแหม่มค่าตัวแพงค่ะ(ยิ้ม) ของถูกและดีไม่มีในโลกค่ะ”

ข้อมูลจาก : คุยแซ่บ show

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: