เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ที่วิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า – แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกฯและหัวหน้าคสช. ได้ทดลองนวดแผนไทยจากฝีมือหมอนวดพื้นบ้านแหลมผักเบี้ย โดยได้ขอให้นวดที่บ่าและหัวไหล่ ระหว่างนวดได้เปล่ากับหมอนวดว่า”บ่าตึงแข็งไปหมดใช่หรือไม่ บ่าแข็งเพราะแบกไว้เยอะ แบกทุกข์ไว้เยอะ”
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีว่า การแก้ไขของรัฐบาลต้องมีแผนงานและทำงานอย่างครบวงจร บางคนอาจมองว่าช้า และรัฐบาลใช้กฎหมายทำให้ทุกคนมีที่ดินทำกินอย่างถูกกฎหมาย แต่ไม่ได้ให้เอาที่ดินนี้ไปขายต่อ ยืนยันว่าต้องดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด ขอให้เอ็นจีโอมาช่วยทำหน้าที่นี้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องโรคภัย ประชาชนต้องระวัง ทั้งโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน โรคเครียด ซึ่งโรคเครียดตนก็เป็น เพราะยังมีคนให้ร้าย แต่ไม่เป็นไร สีทนได้ และที่ทนเพราะทำเพื่อทุกคน ถ้าตนมาทำเพื่อตัวเอง คงออกไปนานแล้ว ยืนยันว่าจะทำให้ทุกคนที่มีตีนกา กลับมามีรอยยิ้มเหมือนเดิมให้ได้ ส่วนนโยบายโครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่ใช่นโยบายทางการเมือง มิฉะนั้นก็คงให้เอาเงินไปทำโครงการ ใครขอก็ให้แล้วไม่สนใจว่ามันจะรั่วไหลตรงไหน
นายกฯ กล่าวว่า การส่งคนลงไป 7,000 กว่าคน ก็เพื่อไปรับรู้อุปสรรคปัญหา และขอย้ำว่าไม่ต้องการให้มีการทุจริตในโครงการนี้ เรื่องทุจริตตอนนี้ตนได้ยินมามาก มีแต่คนพูดถึง ขอให้พิสูจน์กันด้วยหลักฐานและกระบวนการยุติธรรม อย่าตัดสินคนอื่นด้วยกระแสสังคมหรือใช้อารมณ์ความรู้สึก อย่าไปเชื่อคำบิดเบือน หากเจ้าหน้าที่ไม่ดี ก็ต้องลงโทษตามกระบวนการ ขอให้เข้าใจความรู้สึกของคนทำงานบ้าง
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนใจเย็น เราใจเย็นกับประชาธิปไตยมา 80 กว่าปี แต่รัฐบาลชุดนี้อยู่มาแค่ 3 ปี แก้ปัญหามากี่ร้อยกี่พันเรื่อง คนกลับลืมหมด สำหรับกระแสโซเชียล ขอให้ประชาชนอย่าสนใจแต่เรื่องที่พูดกัน ทั้งเรื่องเสือดำ เรื่องหวย 30 ล้านบาท ซึ่งบางที่เดิมพันหรือเชียร์กันไปมาจนเกือบจะชกต่อยกัน ทั้งที่เรื่องหวยไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองเลย ดังนั้น ขอให้ทุกคนสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองจะดีกว่า
“ผมหาเจอแล้วว่าวิธีทำให้ตัวเองมีความสุข คือไม่เปิดอ่านหนังสือพิมพ์ ไม่เปิดดูโซเชียลมีเดีย ทำให้หัวโล่งในทั้งวัน คิดเรื่องต่างๆ ได้มาก แต่ถ้ามาเปิดอ่านตั้งแต่เช้า พอมาถึงที่ทำงาน ก็หมดแรงข้าวต้มเพราะเห็นว่ามีแต่คนด่าผมทั้งวัน และบางคนที่บอกว่าผมไม่อยากให้เลือกตั้งเพราะจะได้อยู่ต่อ คนที่มาพูดอย่างนั้นนั่นแหละมันอยากเข้ามา แต่ผมไม่อยากอยู่ต่อเลย แต่อยากทำให้งานมันเสร็จเท่านั้น” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งต้องเลือกคนให้ดี คนที่ตั้งใจเข้ามาทํางาน อย่ามองแต่เรื่องความใกล้ชิด ที่ผ่านมาเราได้เห็นแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขอเตือนไว้ตรงนี้ ทุกวันนี้มีคนอยู่ 2 พวก คือคนที่อยากได้คนเก่า กับคนที่อยากได้คนใหม่ แต่ที่น่าห่วงคือคนที่อยู่ตรงกลางไม่สนใจอะไร เอาใครก็ได้ คนที่สบาย ไม่ต้องควบคุมอะไร จึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติเข้ามาเพื่อให้มีการทำต่อจากรัฐบาลชุดนี้ ขอให้ทุกคนไม่ต้องไปกลัวใคร กลัวแค่กฎหมายก็พอ และอย่าไปรบกับกฎหมาย ถ้าใครรบกับกฎหมายไม่มีวันชนะ ส่วนเจ้าหน้าที่ต้องปรับตัวเองและทำตามกฎหมาย ไม่คิดว่าคนเป็นนายกไม่เห็นจะโดนเลย ก็ผมไม่ได้ไปโกงอยู่ข้างล่าง แต่ถ้ามีการโกงตรงนั้นก็มีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อ่านข้อความที่ประชาชนเขียนแสดงความคิดเห็น โดยมีข้อความหนึ่งระบุว่า “ไม่ชอบคสช.เลย เกลียดรัฐบาลชุดนี้” พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับกล่าวว่า “คนเขียนอยู่ไหน หาตัวมาให้ที ไม่ได้จะทำอะไร แค่จะได้ให้มาอธิบาย มาทำความเข้าใจในที่เปิด ไม่ใช่ปรับทัศนคติ ถ้าทุกคนเข้าใจผมและรัฐบาล จะรู้ว่าเรามีปัญหามากพอสมควร ต้องขอโทษหากใช้อารมณ์ไปบ้าง บางคนบอกว่าผมเป็นคนของประชาชน ต้องยิ้มพูดจาสุภาพตลอดเวลา แต่ผมยืนยันว่าทำงานเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงขั้นคิดและฝันว่าเข้าป่าแล้วหลงทาง แต่สุดท้ายก็เดินกลับออกมาได้ ผมก็รู้สึกดีใจว่าอย่างน้อยผมมีวันทำงานด้วยสำเร็จ แม้จะวนอยู่ในป่าอยู่บ้างเพราะมีปัญหามาก ขอให้ทุกคนคิดบวกและต้องสร้างศรัทธาจะได้ไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งผมคิดอย่างนี้จึงอยู่ได้ถึงทุกวันนี้”
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนไปอ่านแผนยุทธศาสตร์ชาติ ไปเปิดฟังสิ่งที่ตนเคยพูด ทำมาตลอด 4 ปี ถ้ารวบรวมเนื้อหาดูแล้ว มีมากกว่าเรื่องบุพเพสันนิวาส ละครเรื่องนี้และเรื่องอาญารักเขาว่าตอนนี้กำลังฮิต นั่งดูกันน้ำหูน้ำตาไหล แต่เวลาฟังตนพูด ไม่เห็นน้ำผุด น้ำมูก น้ำตาไหล สงสารตนบ้าง
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์และคณะ โดยสารรถรางเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ