บทสัมภาษณ์โดย : cops-magazine.com
“บ้านผมไม่ได้เลี้ยงให้ใครอ่อนแอ” นักรบสมรภูมิชายแดนภาคใต้เคยระบายความในใจผ่านนิตยสาร COP’S ฉบับประจำเดือนมกราคม 2559
พ.ต.ต.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล ลูกชาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลือกตามรอยเท้าพ่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น48 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 64 บรรจุลงพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
ภาพจาก : Gevalin Suwankeeree
“พ่อผมมาส่งก็พูดว่า ข้าส่งเอ็งไปอยู่ ให้ไปอยู่ที่ลบสิบ ลูกชาวบ้านชาวช่อง เขาไปเริ่มกันที่ไหน เริ่มจากศูนย์ จะลบสิบ หรือบวกสิบ แล้วแต่ตัวเอง เอ็งเป็นลูกพ่อ ไม่บวกสิบ ก็ลบสิบแล้ว แต่จะไปเริ่มที่ไหน อยู่ที่ตัวเรา” เขาบอกเหตุผลครั้งนั้น และยืนยันว่า ไม่ได้น้อยใจอะไร ที่บ้านสอนให้เป็นแบบนี้ แล้วแต่ชะตากรรม รอดก็รอด พ่อบอกเลยว่า คนแถวนั้นไม่ชอบขี้หน้าพ่อ มีแรงกดดันสูงจะได้รู้รสชาติว่า เป็นอย่างไร จะอยู่แบบไหนในเมื่อคนรอบโรงพักอยากตัดคอเรามากกว่าคุยกับเรา
“ผมไม่ได้ไปอยู่พื้นที่เป็นกระต่ายให้เขาล่า แต่เป็นเหยี่ยวไปโฉบงู ช่วยงานสืบสำคัญก็ชอบ พ่อไม่ได้ห่วง เพราะพูดตั้งแต่ตอนส่งไปอยู่แล้วว่า ให้เอาความภาคภูมิใจกลับมาสู่บ้านเรานะ หรือไม่ก็คลุมธงชาติกลับมาเลยลูก ผมก็ไม่คิดจะย้าย อยากเป็นนักรบเต็มตัว สิ่งที่พ่อสอน ทำให้เราแข็งแกร่ง โรงเรียนนายร้อยตำรวจก็เหมือนเบ้าหลอมแรก กลั่นเราจากแร่เหล็กธรรมดาให้เป็นเหล็กกล้า แต่ 3 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสืบสำคัญ มันกลั่นจากเหล็กกล้าให้เป็นนวโลหะได้”
การมีโอกาสเรียนรู้ชีวิตติดดิน ทำให้เขาไม่ได้กดดัน แต่นายตำรวจหนุ่มยอมรับว่า ด้วยความที่พ่อมีศัตรูเยอะ จำเป็นต้องทำตัวดี ทำงานให้เขาเห็น เราเกิดจากคนทำงาน ไม่ได้เกิดจากเกาะนาย หรือสายขาว ชีวิตเราเป็นแบบนี้ แสดงให้เขาเห็น ให้เขายอมรับ
“มันยากมากนะที่จะทำจากจุดติดลบสิบกลับมาอยู่ที่ศูนย์ได้แล้วก็กลับเป็นบวก 1 บวก 2 ได้ ผมมองว่า การใช้ชีวิตที่นั่น ทีมผมเหมือนครอบครัว คงทิ้งกันไม่ได้ ผมผ่านมาแล้ว ปะทะกันมาเห็นเพื่อนร่วมงาน ค่อยๆ ทยอยเป็นวีรบุรุษไปหลายคน บางทีชีวิตผมก็ราคาถูกกว่าลูกน้องผม ลูกน้องผม มีลูก มีภรรยา เงินเดือนก็ไม่ได้สูง ค่าเสี่ยงภัยต่ำกว่าวันละ 100 หรือแค่ 3,500 ต่อเดือน ส่วนผมมีพ่อที่ดูแลแม่ได้ตลอดชีวิต และอยู่ตัวแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเลือดใครที่จะต้องหลั่ง ก็ขอให้เป็นเลือดผมดีกว่า สำหรับคนในทีมผมนะ”
เขาอยู่จนขึ้นเป็นสารวัตรในสมรภูมินักรบชายแดนเล่นบทผู้นำเต็มตัว
“การทำงานอย่างนี้ต้องทำใจ ครูโรงเรียนนายร้อยตำรวจคนหนึ่งที่เสียไปแล้วบอกไว้ว่า คิดจะใส่ชุดนี้มันก็มีศัตรูอยู่แล้ว ขึ้นชื่อว่า ตำรวจก็ต้องมีโจรเป็นศัตรู ทว่าโจรที่น่ากลัว ไม่ได้โจรที่มีรอยสัก แต่เป็นโจรใส่สูท น่ากลัวกว่าเยอะ”
ด้วยความที่ชอบเก็บตัวไม่ค่อยแสดงบทบาทในโลกโซเชียลมากนัก แต่มาในสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ลูกชายของนายพลคนดังอดที่จะระบายความอึดอัดไม่ได้
“บทความยาวๆแบบนี้ใครจะมาอ่านไหมหนอ” สารวัตรเลือดนักรบว่าในเฟซบุ๊กส่วนตัว
ก่อนแชร์ความเห็นเกี่ยวกับ คดีเสือดำ ใช้ “สติ” อย่า “อคติ” ยาวเหยียดในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ พ.ต.อ.ธีรุตม์เทวัญ มังคละวัชร์ ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม https://www.facebook.com/devan.greencop/posts/445849349177261
เขาเชื่อว่า ไม่มีหรอก คงมีบัวพ้นน้ำไม่กี่คนที่จะอ่าน
อยากให้พ่อผมเกษียณเร็วๆเขาจะได้หายเหนื่อยซักที เขาไม่มีอะไรติดค้างสังคม แผ่นดินหรือประเทศชาตินี้อีกแล้ว
เขาได้ทำคุณประโยชน์มามากเกินพอแล้ว
ทั้งทุ่มชิวิต วิญญาณหยาดเหงื่อแรงงานแรงกายและใจ เวลาที่ให้กับครอบครัวอันแสนน้อยนิดนักเทียบกับเวลาที่อยู่ในสนาม หรือโต๊ะทำงาน
พ่อไม่ติดค้างบุญคุณอะไรกับประเทศนี้อีกแล้ว
ไม่กี่ประโยคที่กลั่นออกมาจากหัวใจของนายตำรวจหนุ่มคนนี้เป็นคำตอบบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกของลูกที่มีถึงพ่อได้ดี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ