"ผมอยากจะพิสูจน์ให้นักเรียนนายร้อยรุ่นน้องเห็นว่า ถ้าเราทำงานดี ตั้งใจรับใช้ประชาชนอย่างจริงจัง ผลที่ได้รับกลับมาจากผู้บังคับบัญชา มันต้องเป็นเรื่องดีๆ โดยเฉพาะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โรงพักบางบาล มีกิจกรรมเพื่อประชาชน ดูแลรับใช้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนแทบจะได้ขึ้นเป็นโรงพักที่ดีที่สุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่สุดท้าย เมื่อคำสั่งแต่งตั้งวาระ 61 มาถึง ปรากฏว่า ผมเอง ถูกเตะเข้าไปอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานด้านเอกสาร ซึ่งถ้าย้ายผมไปเป็นครูในโรงเรียนนายร้อยยังทำประโยชน์ได้มากกว่า"
พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผู้กำกับ สภ.บางบาล พระนครศรีอยุธยา นักเรียนนายร้อยรุ่น 41 เจ้าของบทความที่เขียนส่งต่อๆ กันในกลุ่มตำรวจโลกโซเชียล โดยข้อความระบุ… "ผมจะขอเป็นบทเรียนให้น้องๆ และนรต.ทุกคนเห็นว่า" ทำดี ไม่มีผล สนองตอบนโยบาย ไม่มีความก้าวหน้า ช่วยเหลือประชาชน ไม่มีความเจริญในอาชีพ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทำงาน มีนาย มีเงิน มีตั๋ว ท่านจะได้ทุกอย่างในระบบนี้ ประเทศชาติจะอยู่อย่างไร อย่าหลอกพวกผม อย่าหลอกน้องผม ให้ทำงานให้องค์กร ในเมื่อทำแล้วเป็นแบบนี้ นายไม่ผิด ผิดที่ผมเข้าหานายไม่เป็น…Cr บางบาล 1 ผู้เขียน
"ที่พี่เขียนข้อความแบบนั้น ไม่ได้อยากจะมีปัญหากับใคร แค่อยากจะระบายความรู้สึก และบอกเล่าถึงข้อเท็จจริง ว่าตำรวจยุคนี้สมัยนี้ ต่อให้ทำดีเอาผลงานเข้าแลก ก็ไม่สามารถเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานได้ ตำรวจทุกคนต้องมีนาย ต้องมีตั๋ว เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนรู้แก่ใจ ทุกคนต้องวิ่ง พี่ก็เคยวิ่ง แต่รอบนี้อยากจะวัดความสามารถของตัวเอง ในฐานะที่เราก็เป็นไอดอลของน้องๆ นรต.รุ่นหลังๆ ที่เขาเอ่ยปากชื่นชม มาตลอดถึงการพัฒนาหน่วยงาน และรับใช้ดูแลประชาชนด้านคดีความ แต่สุดท้ายรางวัลที่ได้รับกลับมาตอบแทน กลับกลายเป็นถูกย้ายจากตำแหน่งเดิมไปอยู่ในสำนักงาน"
พ.ต.อ.กันตพงษ์ บอกเล่าว่า โรงพักของตนเอง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เคยมาเยี่ยมหลายนาย เห็นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ได้รับคำชมจากตำรวจเกือบทั่วประเทศ ว่าเป็นโรงพักที่มีระบบการทำงานดีมาก ถามว่าเสียใจมั้ยกับสิ่งที่ตนเองทำไปแล้วไม่มีอะไรดีๆ สนองคืนกลับมา จะบอกว่า เสียใจไม่เท่าไหร่ สิ่งที่มากกว่านั้นคือ การมองย้อนกลับไปดูน้องๆ ตำรวจ ที่ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง แต่ไม่มีนาย ไม่มีตั๋ว วันๆ รับใช้ประชาชนแบบเที่ยงตรงสุจริต แล้วน้องพวกนี้เขาจะเอาขวัญกำลังใจมาจากไหน
"ผมไม่อยากโดนวินัย ไม่อยากโดนตั้งกรรมการ ไม่โทษผู้บังคับบัญชา เพราะรู้ว่ามันมีอะไรหลายอย่างมากมายในแวดวงตำรวจ แต่ถ้าผมไม่เขียนข้อเท็จจริงออกมา ใครจะเป็นคนกล้าทำสิ่งเหล่านี้ อยากให้ผู้มีอำนาจเห็นใจและเข้าใจตำรวจที่ไม่มีพลังในการวิ่ง ตำรวจทั่วประเทศที่ทำงานนับแสนๆ คน แต่ไม่มีใครเห็น อย่ามองว่าผมประสงค์ร้ายต่อหน่วยงานเลยครับ ทั้งหมดที่พูดออกมา มันคือความปรารถนาดีกับตำรวจที่ไม่มีโอกาสได้พูด หากผิดพลาดประการใด ผมเรียนขออภัยผู้บังคับบัญชา ณ ตรงนี้ด้วยครับ"
พ.ต.อ.ดร.กันตพงษ์ นิลขำ บุตรชาย "พลโทภุชงค์ นิลขำ" (จปร.5) รุ่นเดียวกับ พลเอกสุจินดา คราประยูร, พลเอกอิสระพงศ์ หนุนพรรคดี และ นางกอบกุล นิลขำ ประวัติการศึกษา จบชั้นประถมศึกษา โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, จบชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนโยธินบูรณะศึกษา, จบอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 ปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 41, ปริญญาโท MPA. (MIS.), Kentucky State University, USA. ปริญญาเอก DORTER OF PUBLIC ADMINISTRATION, UNIVERSITY OF NORTHERN PHILIPPINES, PHILLIPPINES
สำหรับผลงานรางวัลที่ผ่านมา ประจำปี 2561
1.รางวัล CEO THAILAND AWARD 2018 สาขาผู้บริหารแห่งปี 2561 รับเมื่อ 28 ม.ค.61
2.รางวัลสิงห์ทอง นักปกครองท้องถิ่นดีเด่นแห่งปี รับเมื่อ 3 มี.ค.61
3.รางวัล EXECUTIVE OF THE YEAR 2018 สาขานักบริหารดีเด่นแห่งปี 2561 กำหนดรับรับรางวัล 23 มี.ค.61
4.รางวัล CEO GLOBAL AWARDS 2018 สาขา ข้าราชการทหาร ตำรวจ กำหนดรับดีเด่น 31 มี.ค.61
5.ได้รับคัดเลือกเสนอชื่อข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2561 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดรับ 1 เม.ย.61
6.รางวัลคนไทยตัวอย่าง กำหนดรับ 7 เม.ย.61
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ