ผู้รับเหมาสุดทน ตั้งโต๊ะแฉ ถูกเรียกเงิน 2 ล้าน และรถปาเจโร่ จากกรรมการรับงานตึกรพ.2 คน ทั้งที่สร้างเสร็จตามสัญญา เปิดใช้แล้ว แต่โยกโย้ไม่ยอมเซ็นรับ วอนนายกรัฐมนตรีผ่านสื่อ ช่วยผู้รับเหมาด้วย
วันที่ 12 มี.ค.61 ช่วงเที่ยงวัน ที่ร้านอาหารโกปี้ สาขาโรบินสันโอเชี่ยน เลขที่ 89/170 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายวัฒนชัย ศรีธรรม อายุ 47 ปี ผู้จัดการโครงการ บริษัทไกรสุคอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ได้เชิญสื่อมวลชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช มารับฟังการแถลงข่าว
นายวัฒนชัย กล่าวว่า บริษัทของตนได้เข้ารับเหมาก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เป็นอาคารตึก 5 ชั้น ในวงเงิน 50.6 ล้านบาท เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 หลังจากที่ผู้รับเหมารายเดิม ที่รับเหมาก่อสร้างอาคารในวงเงิน 80 ล้านบาท ได้ทิ้งงาน หลังทำการก่อสร้างไปได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์สัญญาจ้างได้ระบุข้อตกลงจะจ่ายเงินค่าก่อสร้าง 8 งวด ซึ่งบริษัทได้ทำการก่อสร้างมาตามปกติตามสัญญา เบิกจ่ายเงินมาแล้ว 7 งวด เหลืองวดสุดท้าย จำนวน 17 ล้านบาทเศษครบกำหนดเบิกจ่ายเงินเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จตามสัญญา ยังคงเหลือการตกแต่งภายในและการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บางรายการอีกเล็กน้อย
ทั้งนี้ ก่อนการตรวจรับงานงวดสุดท้าย ทางโรงพยาบาล ได้ขอเข้าใช้อาคารก่อน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 เนื่องจากมีปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาล และมีการเปิดใช้อาคารเพื่อให้บริการผู้ป่วย มาจนกระทั่งถึงบัดนี้ แต่เป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน ที่คณะกรรมการตรวจการจ้าง ไม่ยอมเซ็นชื่อรับงาน เพื่อให้บริษัทได้รับค่าจ้างงวดสุดท้าย ตนได้พยายามติดต่อประสานงานเร่งรัด แต่คณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องกับเพิกเฉย ตนได้เข้าพบกรรมการท่านหนึ่ง เป็นแพทย์ กลับถูกกรรมการคนดังกล่าว เรียกรับเงิน 2 ล้านบาท โดยระบุว่าหากไม่ดูแล บริษัทจะมีปัญหาถูกปรับก่อสร้างล่าช้าไม่เสร็จตามสัญญา ตนจึงเดินทางไปพบกรรมการตรวจรับงานอีกคน ที่เป็นคนสำคัญในการตรวจรับ คือนายช่างโยธาชำนาญงาน ที่กองแบบแผน กระทรวงสาธารณสุข แต่ถูกกรรมการคนดังกล่าวขอให้จัดซื้อรถยนต์มิซซูบิชิ ปาเจโร่ ให้จำนวน 1 คัน อ้างว่าอยากใช้รถรุ่นนี้ แต่ตนไม่รับปาก
ปรากฏว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีการตรวจรับงานจากกรรมการตรวจรับงานอีกเลย แม้จะพยายามขอร้องให้ดำเนินการตามสัญญา กระทั่งตัดสินใจ เข้าร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะบริษัทของตน ไม่ใช่บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ บริษัทกู้เงินธนาคารมาทำธุรกิจ ต้องจ่ายดอกเบี้ย ขอเครดิตวัสดุก่อสร้าง มาจากผู้จำหน่าย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก แต่เรื่องก็เงียบ เมื่อไปติดตามความคืบหน้า หน่วยงานต่างๆ ก็บอกให้รอ ดำเนินการไปตามระบบราชการ ล่าสุดตัดสินใจส่งหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานคสช. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่เรื่องก็เงียบหายไป เป็นเวลากว่า 2 เดือน คาดว่าหนังสือร้องเรียนของตน คงไม่ถึงมือนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี
นายวัฒนชัย กล่าวอีกว่า บริษัทของตน และตนในฐานะหนึ่งในผู้บริหารได้รับความเดือดร้อนอย่างสาหัส ไม่รู้จะพึ่งใคร จึงตัดสินใจตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ช่วยนำเสนอความเดือดร้อนในฐานะผู้ประกอบการรายเล็ก ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ช่วยสั่งการให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากหากล่าช้า ผู้แทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมาช่วงรายย่อย ที่รับเหมางานเล็กๆ ของอาคาร ซึ่งเป็นผู้รับช่วงต่อบางงาน อาจฟ้องร้องบริษัทตน รวมถึงขณะนี้มีปัญหาค่าแรงงานของคนงานบริษัท และบริษัทผู้รับเหมาช่วงรายย่อย ที่ทางบริษัทยังค้างจ่ายเงิน ขอให้เห็นใจบริษัทเล็กๆ เพราะกำไรที่เหลืออยู่บ้างอยู่ที่เงินงวดสุดท้าย
"กรรมการตรวจการจ้าง อาจเห็นว่า มีเงินค่างวดเหลืออีก 17 ล้านกว่าบาท ก็ขอเรียกรับเงิน ในวงเงิน 17 ล้าน ถ้าจ่ายให้นายแพทย์ 2 ล้าน แล้วต้องซื้อรถยนต์ให้นายช่างอีก ล้านกว่าบาท ก็ปาเข้าไปเกือบ 4 ล้านแล้ว ยังมีค่าภาษี ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกจิปาถะ ขอให้เห็นใจด้วยเถิด ทางโรงพยาบาลเปิดใช้อาคารไปกว่า 6 เดือนแล้ว แต่ผู้สร้างอาคารกลับต้องน้ำตาตก" นายวัฒนชัย กล่าวในที่สุด
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
ภาพจาก : nakhonnews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ