เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ใช้สื่อออนไลน์พูดถึง และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก สำหรับภาพ “รถมินิบิ๊กซี” ของบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ออกวิ่งขายของตามหมู่บ้าน โดยส่วนมากกังวลว่า รถของห้างสรรพสินค้าดัง จะเข้ามาทำให้รถเร่ขายสินค้า รวมทั้งร้านค้าปลีกจะได้รับผลกระทบ และอยู่ไม่ได้จนต้องปิดตัวไปในที่สุด
ร้อนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า ได้ให้กระทรวงพาณิชย์ไปดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเรามีมาตรการสนับสนุนร้านค้ารายย่อย และคุ้มครองรถขายสินค้าของชาวบ้านอยู่แล้ว
ขณะที่ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สอบถามไปทางบิ๊กซีแล้ว ซึ่งได้คำตอบว่าเป็นเพียงแนวคิดการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ของบริษัท และอยู่ในช่วงทดลองเท่านั้น ยังไม่ได้วางแผนทำอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี ทางกรมการค้าภายในจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลระบบค้าปลีกให้เกิดความเป็นธรรม ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยการกำกับดูแลผู้ประกอบการนั้น จะอยู่ในกติกาของกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560
ด้าน บิ๊กซี ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า บริษัทยังไม่มีแผนชัดเจนที่จะขยายธุรกิจด้านนี้ ยังอยู่ในช่วงศึกษาธุรกิจเท่านั้น ส่วน “รถมินิบิ๊กซี” ที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อทดลองตลาด มีเพียงคันเดียววิ่งอยู่ในโซนจ.ปทุมธานี ซึ่งรถคันดังกล่าว มาจากการที่บริษัทเคยนำรถจำหน่ายสินค้าไปช่วยเหลือในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” พร้อมกันนี้ยืนยันว่ารถของบิ๊กซี ไม่ได้ไปแย่งลูกค้าร้านค้าปลีก หรือรถเร่รายอื่นๆ เพราะมีความแตกต่างกับรถเร่ขายของทั่วไป เนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกัน
ทั้งนี้ ข่าวสดออนไลน์ ได้ตรวจสอบธุรกิจ รถเร่ค้าปลีกของบริษัทยักษ์ใหญ่ พบว่า มีหลายบริษัทที่นำรถประเภทดังกล่าวมาทดลองวิ่ง เพื่อต้องการเปิดตลาดใหม่ และต่อยอดทางธุรกิจ รวมทั้งมีบริการรูปแบบอื่นๆ ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อบริการ อาทิ รถขายสินค้าของแฟมิลี่ มาร์ท หรือแม้แต่ รถเร่ขายสินค้าของรัฐบาลอย่าง รถธงฟ้าประชารัฐ ก็มีออกมาก่อนหน้านี้แล้ว หรืออย่าง เทสโก้โลตัส ก็มีบริการส่งสินค้าถึงบ้าน หากซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ที่กำหนดราคาซื้อขั้นต่ำ โดยใช้โปรโมชั่นเข้ามาจูงใจ เช่น จัดส่งฟรี หรือส่งภายใน 1 ชั่วโมง
จะเห็นได้ว่าหลายบริษัทปรับตัวในการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งก็ต้องดูย้อนข้อกฎหมายว่า โมเดลธุรกิจเช่นนี้สามารถทำได้หรือไม่
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ