“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีนัดพูดคุยกับ คุณกองศักดิ์ จันทะสี อายุ 40 ปีเศษ ที่อนุญาตให้เรียกชื่อแบบกันเองว่า “สมชาย” เจ้าของกิจการ “ขนมปังเทวดา” ขนมปังนึ่งทาเนยนม-สังขยา บนรถเข็น ที่ดูรูปลักษณ์ภายนอกสุดแสนจะธรรมดา แต่ทว่าบอกเลยโด่งดังใช่เล่น เคยออกรายการโทรทัศน์หลายช่อง และสื่ออื่นมาแล้วไม่รู้กี่รายการ
ความน่าสนใจที่สื่อหลายสำนักให้ความสนใจก่อนหน้านี้ อาจไม่ได้โฟกัสไปที่ตัวสินค้าตรงหน้าของเจ้าของร้านอารมณ์ดีท่านนี้ หากทว่าน่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการขาย ที่ “ขนมปัง”ส่วนหนึ่งซึ่งถูกฝากไว้ที่ร้านแห่งนี้ มาจากผู้ใจบุญทั้งหลาย ใช้เงินซื้อไว้ แต่ไม่นำขนมปังกลับบ้านไป หากแต่มี “การฝาก”ไว้ ให้กับคนยากไร้ คนป่วย คนท้อง ฯลฯ สามารถมารับประทานฟรีได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
ก่อนจะลงรายละเอียด ที่มาที่ไปของการประกอบกิจการในลักษณะดังกล่าว มาฟังคุณสมชาย เล่าประวัติส่วนตัวให้รู้จักกันมากขึ้นสักหน่อย “เรียนจบแค่ ป.6 ครับ ตอนอยู่อุดรฯ ทำอาชีพมาสารพัด พอทำบัตรประชาชน ตอนอายุ 15 ก็มุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงทันที แรกๆ ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ เด็กปั๊ม ค้าขายมาหลายสิบอย่างแล้ว ทั้งผลไม้ มีลูกชิ้น ไส้กรอก ข้าวโพด เข็นรถไปเรื่อย ตามย่านเยาวราช ประตูน้ำ ซอยรางน้ำ” คุณสมชาย เริ่มต้นบทสนทนา
ก่อนคุยให้ฟังต่อ ก่อนจะหันมาขายขนมปังนี้ ขายผลไม้มาก่อน แต่รู้สึกว่าเหนื่อยมาก เพราะไม่สามารถกำหนดคุณภาพของสินค้าได้เอง หากวันไหนผลไม้มาแบบไม่ดี ก็จำใจต้องขายของไม่ดีไปด้วย ประกอบกับจังหวะนั้นเอง เห็นพื่อนข้างห้องเช่า ที่เขาขายขนมปังอยู่ก่อน เลยไปขอให้เขาช่วยสอนวิธีทำสังขยา เพราะอยากจะหันมาขายขนมปังบ้าง ปรากฏเขาช่วยสอนให้โดยคิดค่าวิชา 500 บาท หลังจากนั้น เขาจึงลงทุนใหม่อีกรอบ เพื่อประกอบอาชีพรถเข็นขายขนมปังนึ่ง ทาเนย น้ำตาล ราดนม ราดน้ำผึ้ง หรือจะทาสังขยา น้ำพริกเผา ก็มีให้เลือก
“ช่วงแรกก็ล้มลุกคลุกคลานเป็นธรรมดา เพราะต้องลงทุนใหม่ เริ่มต้นใช้เตาถ่าน ใส่รถเข็น พเนจรเข็นขายทั่วไป กิ่งเพชร ราชเทวี ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สนามหลวง ไปบ้าง เข็นไปเรื่อยๆ ตอนนั้นขายชิ้นละสิบบาท” คุณสมชาย ย้อนความทรงจำเมื่อราว 5 ปีก่อนหน้า และว่า ต่อมาไม่นาน จึงตั้งชื่อกิจการของตัวเองว่า “ปังร้อน เอื้ออาทร” เนื่องจาก ลดราคาขายจากชิ้นใหญ่ ชิ้นละ 10 บาท มาเป็นชิ้นละ 5 บาท
แต่ทำได้ไม่นานต้องหยุดชั่วคราว เพราะมีปัญหาใหญ่ คือ พอขนมปังที่นึ่งออกมาเย็นลง กระดาษที่ใช้ห่อซึ่งเป็นเหมือนกระดาษห่อโรตีเกิดไปติดกับเนื้อขนมปัง ทำให้ลูกค้าทานไม่สะดวก ประกอบวัตถุดิบหลายตัวปรับราคาขึ้น จึงตัดสินใจหยุดขายก่อน จากนั้นค่อยมาทบทวนประเด็นติดขัด ก่อนคิดแก้ไขไปทีละเปลาะ “กระดาษธรรมดามันติดกับเนื้อขนมปัง เลยหันมาใช้กระดาษเคลือบมันหรือกระดาษห่อข้าวมันไก่แทน จากนั้นหันมาเน้นคุณภาพสินค้า ใส่เนย ใส่นม ใส่น้ำผึ้ง ให้มากขึ้น สังขยาทำเอง ก่อนปรับราคามาเป็น ชิ้นละ 7 บาท” คุณสมชาย เล่าอย่างนั้น
และว่า หลังจากปรับรูปแบบการขายใหม่แล้ว ก็ยังใช้ชื่อ “ปังร้อน เอื้ออาทร”อยู่ แต่ผ่านไปพักหนึ่งไม่รู้คิดยังไง ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น “ขนมปังเทวดา” “ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเปลี่ยนชื่อทำไม ทำไปอย่างนั้นเอง แต่ในใจลึกๆ คิดว่าคนไทยชอบอะไรที่แปลก ถ้าแปลกจะติดเร็ว หันมามองเราเร็ว เลยตั้งชื่อใหม่ แต่เปลี่ยนชื่อก็ยังขายไม่ค่อยดีเหมือนเดิม” คุณสมชาย เล่าก่อนหัวเราะร่วน
มาถึงที่มา “จุดเปลี่ยน” ในอาชีพค้าขายขนมปังนึ่งในแบบของเขา พ่อค้าอารมณ์ดีจากเมืองอุดรฯ ย้อนให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับรู้เรื่อง “แชร์” ผ่านทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเหตุการณ์ในประเทศอิตาลี เกี่ยวกับ “กาแฟฝาก”
“เขาเล่ามาว่า มีผู้ชายไทยคนหนึ่งไปใช้ชีวิตที่เมืองนอก ช่วงนั้นเป็นหน้าหนาว เขาไปทานกาแฟในร้านแห่งหนึ่ง สักพัก เห็นฝรั่งคนหนึ่งมาคนเดียว แต่สั่งสองแก้ว-สามแก้ว แปลกใจ ทำไมกินเยอะขนาดนั้น แต่สุดท้ายฝรั่งคนนั้นก็กินแก้วเดียว ที่เหลือเก็บไว้ เขาก็สงสัยทำไมทำอย่างนั้น สักพักมีคนจรจัด เข้ามาในร้าน มาถามว่ามีใครฝากอะไรไว้มั้ย เขาถึงได้ทานกาแฟที่มีคนฝากไว้ เขาก็แชร์ในโพสต์ว่า อยากให้คนไทยสักคนทำอย่างนี้ ทำโครงการแบบนี้บ้างเพื่อให้สังคมไทยมีการแบ่งปันจะได้น่าอยู่กว่าเดิม” คุณสมชาย เล่าถึงเรื่องราวที่เขาได้รับรู้มา
ก่อนบอกต่อ อ่านแล้วรู้สึกสนใจ อยากทำบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ต้องมีการศึกษาและพิจารณาให้รอบคอบก่อน “การที่ผมจะทำกิจการขนมปังเทวดา ให้เป็นขนมปังฝากเลยเนี่ย ใครจะเชื่อมั้ย เราเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ หน้าตาบ้านๆ เลยแค่เก็บไว้ในใจ ยังไม่ได้ทำหรอก” คุณสมชาย บอกมาอย่างนั้น
แม้ยังไม่สามารถปรับกิจการให้มาเป็นร้าน “ขนมปังฝาก” แบบที่ตั้งใจได้ แต่คุณสมชาย ก็มีใจอยากช่วยเหลือคนด้อยโอกาส จึงทำป้ายติดประกาศห้อยไว้บนรถเข็นของตัวเอง บ่งบอกข้อความไว้ว่า “สตรีมีครรภ์”รับประทานฟรี วันละ 2-3 ชิ้น ปรากฏก็มีโทรทัศน์ช่องหนึ่งสนใจมาทำข่าว เขาเลยได้ที “ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน”
“ผมไปปรึกษารุ่นพี่ที่นับถือ ซึ่งทำงานอยู่ในกรมทางหลวง เขาก็เห็นด้วยและบอกทำให้ดี ทำให้เต็มที่ แล้วมันจะดีเอง ผมเลยได้ทำสิ่งที่อยากทำ เพราะกำลังเป็นข่าว รุ่นพี่ท่านนั้นให้เงินมาหนึ่งร้อยบาท เป็นการเริ่มโครงการขนมปังฝาก เป็นขนมปังยี่สิบชิ้น ปกติผมขายชิ้นละ 7 บาท แต่ถ้าลูกค้าบริจาค 20 บาทจะมีขนมปังฝากได้ 4 ชิ้น ผมลดกำไรลงหน่อยหนึ่ง เผื่อจะได้บุญกับเขาบ้าง” คุณสมชาย เล่าตาเป็นประกาย
เจ้าของเรื่องราว ท่านเดิม เล่าต่อ หลังจากนั้นไม่นาน เริ่มมีคนสนใจบริจาคเงินเพื่อซื้อ “ขนมปังฝาก” มากขึ้นตามลำดับ หลายคนบริจาคจนเป็นขาประจำ ช่วงแรกไม่ค่อยมีคนกล้ามารับ เพราะกลัวถูกหลอก ต่อมาได้ย้ายทำเลมาปักหลักขายหน้าโรงพยาบาลสงฆ์ จึงติดป้ายแจกขนมปังฟรี สำหรับสตรีมีครรภ์ คนแก่ และคนไข้ที่มาฟอกไต ปรากฏมีคนมารับแจกมากขึ้น แต่คนสนับสนุนก็ยังไม่มากเท่าไหร่นัก
กระทั่งปลายปีที่ผ่านมา มีรายการโทรทัศน์ชื่อดัง “วิกสามพระรามสี่” มานำเสนอเรื่องราวของเขา ปรากฏยอดบริจาคเข้ามามากขึ้น รวมทั้งยังทำให้ยอดขายตามปกติ สูงขึ้นตามไปด้วย “ตั้งแต่มาขายหน้าโรงพยาบาลสงฆ์นี้ มีคนมาร่วมกันทำบุญเยอะ ผมจดไว้ทุกบาททุกสตางค์ เพื่อไม่ให้กรรมเข้าตัวเอง และสิ่งที่ทำลักษณะนี้ ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ แต่อยากแบ่งปัน มอบความสุข ขนมปังสามสี่ชิ้นไม่ได้อิ่มอะไรมากมายหรอก แต่เป็นกำลังใจมอบให้กันได้” คุณสมชาย บอกจริงจัง
ก่อนเผย ปัจจุบันยอดบริจาค “ขนมปังฝาก”นั้น นับได้เป็นหมื่นชิ้น มาจากผู้คนจากทั่วสารทิศ มีพี่ๆ บางคน โอนเงินมาให้หนึ่งหมื่นบาท แบ่งห้าพันเข้าโครงการขนมปังฝาก อีกห้าพันบาทเขาให้ไว้ใช้ส่วนตัว นี่คือ ตัวอย่างของคนที่เชื่อมั่นในสิ่งที่เขาทำ และเป็นหลักฐานยืนยันสังคมไทยยังไม่แห้งแล้ง คนไทยช่วยเหลือกันรักกัน และยังอยู่ร่วมกันได้
หันมาถามไถ่ ในแง่ผลตอบแทนจากการค้าขายขนมปังนึ่ง หน้าตาน่ารับประทานตรงหน้าบ้าง คุณสมชาย เผยให้ฟัง “ขายดีขึ้นนะ วันหนึ่งขายได้หลายร้อยชิ้น กำไรหลักพันบาท ปัจจุบันขาย 5 วัน จันทร์-ศุกร์ เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น หยุดพักผ่อนทุกเสาร์ อาทิตย์” คุณสมชาย บอกยิ้มๆ
นึกสงสัยมีใครมาขอให้ถ่ายทอดวิชาอาชีพ “ขนมปังเทวดา” นี้บ้างหรือเปล่า คุณสมชาย เผย มีคนสนใจกันมาก ซึ่งตนจะถ่ายทอดเคล็ดลับทุกอย่างฟรี แต่ไม่มีทุนให้ อยากทำต่อคงต้องลงทุนกันเเอง
“ผมจะสอนวิธีทำสังขยา โดยจดสูตรให้ และบอกเคล็ดลับทีละอย่าง การนึ่งขนมปังยังไงให้นิ่มตลอด ซื้อไปกินตอนเช้า ตอนบ่ายยังนิ่มอยู่ เคล็ดลับอยู่ที่การนึ่ง เป็นเคล็ดลับที่ไม่ลับ บอกให้ได้ ใครข้องใจก็โทรศัพท์มาสอบถามได้ บอกให้ทุกอย่าง ทั้ง แหล่งซื้อวัตถุดิบ ราคาต้นทุน วิธีการนึ่งยังไง การทำสังขยา ฯลฯ”
“สำหรับงบลงทุนทำอาชีพขนมปังนึ่งบนรถเข็นนี้ ไม่เกิน 15,000 บาท พร้อมขายได้เลย ผมยินดีสอนให้หมดทุกอย่าง ทุกเคล็ดลับ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเป็นงานเหนื่อยและจุกจิก จึงต้องตั้งใจ แต่ถ้าทำได้ รับรองกำไรดี รุ่งแน่นอน” คุณสมชาย ย้ำมาอย่างนั้น
“ขนมปังเทวดา” ราคาขายอยู่ที่ ชิ้นละ 7 บาท 3 ชิ้น 20 บาท ส่วนสตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยไข้ได้ทุกโรค คนยากไร้ คนพิการ ได้สิทธิ์กินฟรีทุกวันคนละ 3 ชิ้น
ปัจจุบันทำเลขายอยู่ที่หน้าร้านยาเภสัชมหิดล ใกล้กับโรงพยาบาลสงฆ์ ถนนศรีอยุธยา เขตพญาไท กรุงเทพฯ สนใจอยากอุดหนุน หรือร่วมบริจาคในโครงการ “ขนมปังฝาก” ติดต่อไปได้ที่ โทรศัพท์ 080-086-8069, 092-803-8590 หรือ Facebook/ขนมปังเทวดา
ข่าวจาก : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ