จากกรณี นายจรูญ มีพันธ์ หรือ “ตาซาเล้ง” วัย 82 ปี ที่ถูกวัยรุ่นคนหนึ่งทำร้ายร่างกายย่านห้วยขวาง จนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเสียชีวิตเมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวของตาจรูญได้รับเงินบริจาคเกือบ 1 ล้านบาท ล่าสุดพบว่า ครอบครัวเกิดปัญหาเรื่องเงินบริจาคที่ได้รับมา ระบุว่าลูกสาวขอเงินนำไปใช้จ่ายส่วนตัว
ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องดังกล่าวกับ น.ส.วนิดา มีพันธ์ ลูกสาวตาจรูญ เปิดเผยว่า ตนไม่อยากแก้ข่าว เพราะไม่เป็นความจริง ทางแม่ได้มอบฉันทะให้ตนไปรับเงินเยียวยาของศาลยุติธรรม จำนวน 115,000บาท วันที่ 26 เม.ย. นี้ ส่วนเรื่องซื้อรถตนได้ตกลงคุยกับแม่แล้ว แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเวลาไปไหนหรือทำงานก็ลำบาก แต่ญาติจะไม่เห็นด้วย บอกว่า ให้ตนทำงานก่อนมีเงินค่อยซื้อ ซึ่งตนก็ปรึกษาพี่เต้ (นายเตชะ ทับทอง) แล้ว ทางพี่เต้กับเพจแหม่มโพธิ์ดำก็จะไม่ยุ่งเงินเยียวยาส่วนนี้ อยากเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ แล้วแม่ก็ให้แล้ว ญาติไม่อยากให้ใช้เงินส่วนนี้ ก็ขอให้โอนกลับคืนแม่หลังได้รับเงินแล้ว
ส่วนเพจที่ระดมเงินช่วยเหลือ ทางตนไม่เคยยุ่ง เงินที่ช่วยเหลือพี่เต้จะโอนเงินให้กับแม่ตนเท่านั้น ส่วนเรื่องปล่อยข่าวมั่ว ตนยืนยันว่าไม่เคยให้ข่าวเลย เมื่อวาน (20 เม.ย.) มีสื่อมาติดตามทำข่าวเรื่องการถมที่ ก็ไม่ได้มีการให้ข่าวแต่อย่างใด
น.ส.วนิดา กล่าวอีกว่า เงินที่เพจระดมช่วยเหลือบริจาค พี่เต้ดูแลเรื่องทำบ้าน จะโอนเงินเข้าบัญชี ธกส. แม่ทั้งหมด โดยที่ลูกไม่ได้ยุ่งเลย ตนไม่ได้จับเงิน เมื่อวานตนก็ไปเบิกเงินเพื่อจ่ายค่าบ้านน็อคดาวน์ จำนวน 480,000 บาท จ่ายค่าบ้าน 375,000 บาท ค่าถมที่ 36,000 บาท และอื่นๆ ที่จะซื้อในการทำบ้าน เหลือเงินเท่าไหร่ พี่เต้ก็จะโอนให้ในบัญชี ธกส. ของแม่ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่ตนผิดใจกับแม่ ยืนยันว่า ไม่มี ตนกับพี่เต้ก็ไม่มีปัญหากัน ส่วนเรื่องไม่อยากให้ข่าว เพราะกลัวว่าเขาจะเอาสิ่งที่เราไม่ได้พูดไปนำเสนอ กลัวข้อมูลไม่ตรง ส่วนกรณีออกสื่อบางแห่งนั้น ที่แม่ให้สัมภาษณ์ไป คงพูดเพราะเป็นอารมณ์ของเขา ซึ่งตนกับพี่มีอะไรก็ปรึกษากัน แล้วก็ไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องเงิน คาดว่าคงมีการเข้าใจผิดกัน
ทั้งนี้ ที่ตนจะเอาเงินไปซื้อทอง ซื้อรถ ก็ยังไม่ได้ซื้อ แค่จะเอาเงินจะไปซื้อรถเท่านั้น และเป็นเงินเยียวยาจากศาลยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับเงินที่บริจาคช่วยครอบครัว และแม่ก็ทราบเรื่องนี้ ญาติผู้ใหญ่ก็ทราบหมด เงินจากเพจที่บริจาคตนไม่ได้ยุ่งเลย แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ซื้อรถแล้ว ส่วนตัวมองว่าเงินเยียวยาที่ตนได้รับมอบฉันทะจากแม่และพี่ชาย ก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร แต่พอเป็นข่าวก็จะโอนให้แม่ทั้งหมด
ซึ่งหลังจากที่ตนเห็นข่าวแล้ว ก็ไม่คิดมาก ความจริงก็คือความจริง ตนไม่กลัวสังคมเข้าใจผิด เพราะว่าเดี๋ยวคนก็ลืมไป และตนไม่ได้เป็นอย่างที่แม่เขาพูด ตอนนี้ก็ได้คุยกับแม่แล้ว แม่ก็ไม่ได้พูดอะไร แม่ไม่ได้โกรธ และไม่ว่าอะไร วันที่ 26 เม.ย. นี้ แม่ก็ไปด้วย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ