2ผัวเมียเตรียมร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติจี้หาตัวมือชำแหละ หลังฝากรถกับ ตร.เหลือแต่ซาก โรงพักปัดรับฝาก ไม่รู้ไปอู่ได้ไง?(มีคลิป)





 

จากกรณีสองสามีภรรยาเจ้าของเต็นท์รถมือสอง จ.นครสวรรค์ ฝากรถไว้ที่โรงพักราว 1 ปี แต่เมื่อไปรับกลับเหลือเพียงแต่ซากโครงรถ จึงร้องขอความเป็นธรรม เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำอะไหล่รถที่ฝากไว้ไปขาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ชี้แจงว่า สองสามีภรรยารับรถกลับไปในสภาพสมบูรณ์

 

 

10 พ.ค.61 ที่ร้านอำนวยคาร์เซ็นเตอร์ จ.นครสวรรค์  ซึ่งเป็นเต็นท์รถมือสองของ นายสมพงษ์ ชำนาญไพรและ นางอำนวยมุกด์ดา ชำนาญไพร สองสามีภรรยาที่นำรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรตัน ที่ถูกยึดเป็นของกลางไปไว้ที่โรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์

 

 

โดยนายสมพงษ์ เล่าว่า ตนเองไปประมูลรถยนต์คันนี้จากบริษัทสหการประมูล เมื่อปี 2558 มาในราคา 72,000 บาท หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ตนได้ขายรถยนต์คันนี้ให้ นายมานพ ชื่นอยู่ ไปในราคา 120,000 บาท ซึ่งนายมานพ จ่ายมาให้ตน 50,000 บาท และตกลงกันว่าส่วนที่เหลือจะจ่ายให้หลังจากครบ 1 เดือน เมื่อถึงเวลาตามกำหนด นายมานพ อ้างว่า ยังไม่มีเงินให้ตามที่ตกลง ตนจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปเก็บไว้โรงพัก

จากนั้นผ่านไปปีกว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2560 นายมานพได้ติดต่อมาว่า มีเงินพร้อมที่จะมารับรถยนต์แล้ว แต่ขอไปดูรถก่อนว่าอยู่ในสภาพเดิมหรือไม่ จนกระทั่งนายมานพไปคุยกับร้อยเวร แต่ไม่พบว่ารถอยู่ที่โรงพัก จึงโทรศัพท์กลับมาบอกตนว่า รถอยู่ที่อู่ช่างแดง จึงไปเจอรถก็มีสภาพที่ไม่มีอะไหล่แล้ว ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่นายมานพจะให้ช่างแดงเป็นผู้ชำแหละรถให้ เพราะนายมานพก็เพิ่งมาทราบว่ารถอยู่ที่อู่ช่างแดง ไม่ใช่ที่โรงพัก ทั้งนี้ นายมานพได้สอบถามกับช่างแดงจึงทราบว่า “นายให้เอารถมา”

ซึ่งนายสมพงษ์ ระบุว่า หากเป็นไปตามที่ช่างแดงบอก ตนก็สงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สิทธิ์อะไรในการเอารถตนไปไว้ที่อู่ เพราะตอนนี้สิทธิ์เจ้าของรถก็ยังอยู่ที่ตน ขณะนี้ตนเองร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องก็ส่งกลับมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ตอนต้นเดือนมีนาคม ตนพยายามขอเข้าพบผู้การฯ แต่ก็ไม่ใด้พบ จึงขึ้นป้ายดังกล่าว

ขณะนี้ตนทราบาว่า ช่างแดงได้ซื้อรถมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในราคา 20,000 บาท แต่ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วหากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนจะลากซากโครงรถไปที่กองปราบฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทำไมจึงหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบไม่ได้ ตนยืนยันว่าทุกอย่างที่พูดเป็นความจริง อยากจะถามร้อยเวรว่าใช้สิทธิ์ตรงไหนในการนำรถยนต์ตนไป

ขณะที่ด้านของนางอำนวยมุกด์ดา ชำนาญไพร ภรรยาของนายสมพงษ์ ระบุว่า หลังจากนายมานพไปดูรถที่อู่ช่างแดง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 โดยพบว่ารถเหลือแต่ซาก ไม่มีอะไหล่ ตนจึงไปถ่ายรูปไว้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าทางช่างแดง นำรถออกมาจากโรงพัก แล้วถอดอะไหล่ออกตั้งแต่เมื่อไหร่

ซึ่งพอนายมานพไปทวงรถ ช่างแดงจึงนำโครงรถยนต์คันดังกล่าวกลับมาคืนที่โรงพัก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับนายมานพและตน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ว่าได้นำรถกลับคืนไปแล้ว แต่ในบันทึกประจำวันที่ตน กับนายมานพเซ็น มีข้อความว่า “เครื่องยนต์อยู่ในสภาพเดิม โดยไม่มีส่วนใดสูญหาย”

ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พ.ต.ท.ชานุ คุ้มนวล สว.สอบสวน ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า รถยนต์คันดังกล่าวได้จากกองกำกับการสืบสวน จ.นครสวรรค์ โดยถูกนายมานพ นำไปซ่อมไว้ที่อู่ ตนจึงเรียกนายมานพมาสอบปากคำ ทราบว่าซื้อรถมาจากนายสมพงษ์ แล้วเอาซ่อมขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกทั้งสองคนมาพบ โดยแจ้งว่าเจ้าหนาที่ตำรวจไม่มีอำนาจยึดรถไว้ เพราะรถไม่ใช่ของกลางในคดี แต่นายสมพงษ์ไม่ยอมมารับรถคืน แล้วอ้างว่าจะมารับรถก็ต่อเมื่อนายมานพมีเงินมาชำระคืน

ทั้งนี้ ตนได้โทรแจ้งนายสมพงษ์ว่า รถนี้ตำรวจจะไม่รับผิดชอบแล้ว เพราะไม่มีที่เก็บ ซึ่งนายสมพงษ์บอกว่า ไม่เป็นไรก็จอดไว้เลย เสียหายก็ปล่อยมัน หลังจากนั้นตนก็ออกหมายเรียกไป แต่เขาไม่มา รถจึงถูกจอดทิ้งไว้ 2 ปีกว่า

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่ารถไปอยู่ที่อู่ช่างแดงได้อย่างไร แต่วันที่ 6 ธ.ค. 2560 นายมานพ และนางอำนวยมุกต์ดา ภรรยาของนายสมพงษ์ ได้มารับรถยนต์ โดยทั้งสองคนได้เซ็นชื่อลงบันทึกประจำวัน ซึ่งในบันทึกระบุว่า ตรวจดูรถแล้วและยินยอมรับไป ในส่วนที่จะเสียหายอย่างไร ตำรวจก็ไม่รู้ และตนยืนยันว่าข้อความในบันทึกประจำวัน ไม่มีการไปเพิ่มเติม อีกทั้งบรรทัดสุดท้ายก่อนลงชื่อ มีการระบุข้อความว่า อ่านให้ฟังแล้ว รับว่าถูกต้อง หากรถมีส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป ทำไมจึงไม่มีการทักท้วง เพราะตั้งแต่ธันวาคมจนถึงตอนนี้ ทำไมจึงมาพูดคุยกันตอนนี้ ซี่งหลังจากนี้ หากนายสมพงษ์ จะนำรถลากไปรอบเมืองก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะตำรวจไปยุ่งเรื่องทางแพ่งไม่ได้

ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: