วันที่ 27 พ.ค. 61 ที่ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่า เขตประเวศ กทม. นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตประวศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบตลาดเพื่อไม่ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปจำหน่ายสินค้า โดยมีการดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนแล้วกว่า 70 ราย
โดย นางกัญญา พุ่มชื่น ทนายชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีคำสั่งศาลออกมาว่าให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบริเวณนี้ ทางตลาดก็ได้ไปขอ ผอ.เขตประเวศ ว่าจะขอขายของทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ แต่ก็ไม่ได้รับการอนุญาต บอกเพียงว่าต้องทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นไป ถ้าครั้งนี้ยังไม่ได้อีก ก็อยากจะวอนขอให้หาที่ขายของใหม่ให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าด้วย จึงมีการล่ารายชื่อของคนที่เห็นด้วยว่าต้องการจะขายของต่อ ซึ่งเมื่อวานมีพ่อค้าแม่ค้ามาร่วมลงชื่อกว่า 100 ราย และวันนี้อีกจำนวนหนึ่ง โดยยังมีพ่อค้าแม่ค้าบางรายที่ยังไม่เดินทางมาร่วมลงชื่อ เพราะจะต้องไปขายของในพื้นที่อื่นก่อน
ซึ่งตลาดแห่งนี้มีใบอนุญาตถูกต้อง แต่เมื่อเกิดกรณีทุบรถ ทางศาลก็เลยเพิกถอนใบอนุญาต แล้วให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหยุดขายก่อน เพื่อทำการปรับปรุงตลาด นอกจากนี้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ก็ขายของในพื้นที่นี้มากว่า 10 ปีแล้ว ถ้าจะให้ย้ายไปขายที่อื่น หรือไปทำมาหากินที่อื่นก็คงลำบาก เนื่องจากคุ้นชินกับสถานที่เดิมมากกว่า และตลาดบางแห่งก็มีกฎระเบียบ และค่าเช่าที่แพง ซึ่งจะต้องชำระล่วงหน้าด้วย ยังไงคนไทยก็ต้องช่วยเหลือกัน เพราะตนก็เคยเป็นแม่ค้ามาก่อน ดังนั้นหากผู้ว่าแพ้ ประชาชนยิ่งแพ้ไปกันใหญ่
ด้าน นายพาส (นามสมมติ) ประชาชนภายในซอยดังกล่าว เปิดเผยว่า แถวนี้ใครๆ ก็รู้ว่ามีคำสั่งศาลออกมาแล้วว่าให้สั่งรื้อถอนตลาด และเมื่อวานมีการตั้งแผงของพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งตนมองว่าบางทีการตัดสินของศาลเพียงวันเดียว แต่ความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมันสะสมมานาน ที่ทุกคนจะต้องทำมาหากินตลอด จู่ๆ จะมาสั่งกะทันหันมันก็ไม่ไหว ยิ่งสินค้าที่ยังค้างอยู่ยังไงก็ต้องมีการระบายออกไปก่อน เปรียบเสมือนคนเราถ้าถูกไล่ออกจากงาน ยังมีเงินชดเชยให้ แต่คำว่าแม่ค้า คือคนหาเช้ากินค่ำ แต่เมื่อศาลตัดสินมาแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน และพร้อมปฏิบัติตาม
แต่ในกรณีนี้ศาลกำหนดให้เวลา 60 วัน ซึ่งถ้าผู้ค้ายังขายของไปจนถึงวันที่ 65 แบบนี้จึงไม่สมควร แต่ครั้งนี้ผลการตัดสินพึ่งจะออกมา เหมือนกับข้าวสารยังไม่หมดถังด้วยซ้ำ จะให้เอาไปทิ้งหรืออย่างไร ทุกวันนี้ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ ก็อาจจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ ในเมื่อบอกว่าเดือดร้อนมาเป็น 10 ปี แล้วอีกแค่ 60 วัน รออีกหน่อยไม่ได้หรือ ทำไมไม่สงสารกันบ้าง ในตอนนี้มีอะไรต้องช่วยเหลือกันไปก่อนใช่หรือไม่
ทั้งนี้ อยากจะขอร้องไม่ว่า หากมีเรื่องอะไรก็อย่าให้ไปถึงกฎหมายหรือถึงศาลเลย หากคุยกันได้ ก็ต้องคุยกันไป ส่วนกรณีที่ตกลงกันไม่ได้ พูดกันไม่เข้าใจ ก็ต้องหาที่ปรึกษากันก่อน ว่าเรื่องที่เกิดขึ่นพบกันครึ่งทางได้หรือไม่ สมมติว่า ในเมื่อคุณมีชีวิตที่สุขสบายมา 24 ชั่วโมง แต่ผู้ค้าออกมาขายแค่ 05.00 – 10.00 น. ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง แค่สละเวลาตรงนี้เสมือนให้ทานได้หรือไม่
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ