ในภารกิจช่วยชีวิต 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง "ร.อ.หญิง เจสสิกา เทท" โฆษกหน่วยช่วยเหลือและค้นหาจากสหรัฐฯ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ บางคนถึงกับยกให้เธอเป็นนางฟ้าแห่งถ้ำหลวงเลย เพราะไม่บ่อยนักที่จะเจอทหารหญิงสวยๆ ลงพื้นที่เสี่ยงภัย (ในบ้านเรา ปกติเราจะคุ้นชินแต่ทหารหญิงหรือตำรวจหญิงสวยๆ ที่ประจำการในแผนกงานธุรการหรืองานอำนวยการเสียมากกว่า)
ผู้กองเจสสิก้าเธอเผยกับทีมงาน บีบีซีไทย – BBC Thai ว่า เธอรู้สึกงง และค่อนข้างแปลกใจอยู่เหมือนกัน ที่จู่ๆ ก็กลายเป็นที่สนใจของโลกออนไลน์และคนไทยเป็นจำนวนมาก แต่ก็รู้สึกเป็นเกียรติสำหรับความสนใจในตัวเธอนี้ ดูเหมือนคนไทยจะรักเธอดี เพราะไปไหนก็มีแต่คนเข้ามาคุย ทำความรู้จัก และขอถ่ายรูป ตลอดเวลาที่เธอก้าวเข้ามาในพื้นที่ถ้ำหลวง
ซึ่งเมื่อ บีบีซีไทย – BBC Thai ได้เจาะประวัติเธอเข้าไปอีก ยิ่งน่าสนใจและอาจเป็นแรงบันดาลใจกับใครหลายคนได้
- เธอจบการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยม จาก มหาวิทยาลัย แมรี บอลด์วิน ในสหรัฐ วิชาเอกประวัติศาสตร์ศิลปะ วิชาโท 3 สาขา คือ ประวัติศาสตร์ เอเชียศึกษา และ ภาวะการเป็นผู้นำ
- เธอได้รับทุนจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ เข้าเรียนหลักสูตรนายร้อยสำหรับผู้จบปริญญาตรีในสถาบันกองทัพแห่งเวอร์จิเนีย (VMI) และ สถาบันหลักสูตรผู้นำสำหรับสตรีแห่งเวอร์จิเนีย สำหรับนักเรียนนายร้อยหญิงของสหรัฐฯ
- เธอเริ่มงานกับกองทัพอากาศในตำแหน่งหัวหน้าแผนกกิจการสาธารณะ ตั้งแต่ พ.ย. 2010 เชี่ยวชาญงานด้านมวลชนสัมพันธ์ และมวลชนสัมพันธ์ ทั้งในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น
การมาเยือนไทยของเธอ ไม่ใช่แค่กรณีถ้ำหลวงนี้เป็นครั้งแรก จริงๆ แล้วเธอมาเมืองไทยหลายครั้ง ทั้งมาทำงานและเที่ยว ล่าสุดเมื่อ ก.พ. ปีนี้ เธอฝากผลงานข่าวและภาพเกี่ยวกับ "คอบร้าโกลด์" การฝึกร่วมผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศไทย หน่วยของเธอ ซึ่งประจำการอยู่ที่จังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาถึงไทยเมื่อ 29 มิ.ย. หลังจากที่ได้รับการร้องขอจากรัฐบาลไทยให้ช่วยสนับสนุนในภารกิจช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลเยาวชน 12 คน และโค้ช ที่สูญหาย มีบุคลากร 30 คน ประกอบไปด้วยผู้หญิง 5 คน ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต (pararescuemen) และผู้เชี่ยวชาญด้านการเอาตัวรอด (survival experts)
เมื่อพูดถึงการทำงานของเธอในอาชีพทหาร เธอตอบอย่างภูมิใจว่า
เธอรู้สึกดีที่ได้รับใช้ประเทศชาติในฐานะที่เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นมืออาชีพ เธอบอกว่าเธอคิดถึงเด็ก ๆ และโค้ชทุกคืน และการมาปฏิบัติงานอยู่ที่นี่ทำให้เธอได้เจอคนเป็นจำนวนมากในหลากหลายหน้าที่ ทำให้เธอรู้สึกว่าคนทั้งประเทศอยู่ที่นี่เพื่อนสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือดังกล่าว
"ฉันมีความเป็นมืออาชีพ ฉันฉลาด ทำงานอย่างแข็งขันมาก และทุ่มเทให้กับงานที่ทำ เพราะฉะนั้นไม่ว่าฉันจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ฉันคิดว่าฉันมีจิตใจที่มุ่งมั่นและมีความอดทน"
"ฉันคิดว่าสิ่งที่วิเศษอย่างหนึ่งคือ ในการเป็นทหาร ฉันไม่เคยตัดสินใจว่าฉันจะทำตัวเหมือนผู้ชาย ฉันชอบแต่งตัวมาก ฉันชอบแต่งหน้ามาก และฉันก็โอเคกับมัน [สิ่งที่ฉันเป็น] เพราะฉันก็ยังทำงานของฉันได้ และทำได้ดีด้วย"
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bbc.com/thai/thailand-44678991
ขอบคุณข้อมูลจาก : bbc
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ