อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน พร้อมประสานงานดูเรื่องการขอสัญชาติให้ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง เผยมี 3 คน จาก 13 คน เป็นบุคคลไร้สัญชาติ ด้าน รมว.พัฒนาสังคมฯ ย้ำไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ…
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการขอสัญชาติให้กับเยาวชนในทีมหมูป่าอะคาเดมีบางคนมีสถานะไร้สัญชาติ ว่า การให้สัญชาติไทย เป็นอำนาจหน้าที่หลักของกระทรวงมหาดไทย ส่วน ดย.เป็นหนึ่งในคณะทำงานเรื่องนี้ ที่หลักเกณฑ์เบื้องต้นจะต้องเป็นบุคคลเกิดและอาศัยในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ทั้งนี้ ผู้ขอสัญชาติจะต้องเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือผู้ปกครองในสถานสงเคราะห์ ซึ่งมีข้อกำหนดว่าสถานสงเคราะห์ดังกล่าวจะต้องขึ้นทะเบียนกับ ดย. และมีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ในความดูแลไม่ต่ำกว่า 6 คน กรณีดังกล่าว เท่าที่ทราบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีเด็ก 3 คน อายุ 13, 14 และ 16 ปี เป็นบุคคลไร้สัญชาติ เนื่องจากพ่อแม่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวไทใหญ่ ที่อาศัยอยู่ อ.แม่สาย จ. เชียงราย ขณะนี้มอบหมายให้บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.เชียงราย ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลว่า เด็กอยู่ในสถานสงเคราะห์ใดหรือไม่ ทราบบางส่วนว่า อยู่ในคริสตจักร แต่ไม่ทราบได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานสงเคราะห์กับทาง ดย. หรือไม่
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้เด็กออกจากโรงพยาบาลก่อน ตามกระบวนการการขอสัญชาติ หากเด็กมีเลข 13 หลักที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0 ถือว่า อยู่ในกระบวนการที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว คงจะดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป หากไม่มีอะไรที่จะต้องตรวจสอบเชิงลึก มีพยานหลักฐานและเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ ก็สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน ยืนยันว่า การขอสัญชาติของเด็กเหล่านี้ ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และคงไม่ได้มีการไปเร่งรัด ส่วนกรณีของโค้ชที่ถูกระบุว่า เป็นคนไร้สัญชาติเช่นเดียวกันนั้น ไม่ทราบรายละเอียด
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณี ดย. จะทำเรื่องขอสัญชาติไทยให้กับเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี 3 ราย ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เบื้องต้นคงต้องให้เด็กๆ ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนว่า มีความต้องการอย่างไร ส่วนที่ถามว่า จะเป็นการเลือกปฏิบัติกับเด็กและเยาวชนที่ขอสัญชาติคนอื่นๆ หรือไม่นั้น ตนพยายามบอกว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ คงไม่ไปเลือกปฏิบัติ เบื้องต้น ก็คงดูเหตุผลก่อนว่าทำไมอย่างไร อันนี้ ไม่มีปัญหาขอให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีคุณสมบัติครบตามที่ระเบียบกำหนดไว้ แต่ตอนนี้คงต้องให้กำลังใจก่อน ทั้งตัวผู้ประสบภัยและจิตอาสาที่เข้าไปช่วยเหลือให้มากๆ.
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ