จากกรณีที่นายเบญจ์ เทือกสุบรรณ หลานชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ขับรถหรูชนรถแท็กซี่ ก่อนใช้ไม้เบสบอลทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่ และตีรถได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นถูกการ์ดสถานบันเทิงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุบริเวณถนนเอกมัย ซอย 6
นายต้น (นามสมมติ) พนักงานร้านอาหารใกล้จุดเกิดเหตุ
วันที่ 19 ก.ค. 61 นายต้น (นามสมมติ) พนักงานร้านอาหารใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 04.30 น. ตนได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านนอกร้าน จึงออกมาดู พบว่ามีเศษเหล็กกระจัดกระจายเต็มพื้น ระหว่างนั้นเห็นชายท่าทางคล้ายวัยรุ่นถือไม้เบสบอลลงมาจากรถเก๋ง ก่อนจะฟาดที่กระจกรถแท็กซี่ 1 ครั้งจนแตก และกระแทกไม้เบสบอลเข้าที่หน้าคนขับรถแท็กซี่ 2 ครั้ง ก่อนจะมีคนเข้ามาห้าม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวค่อนข้างชุลมุน ตนจึงไม่ทราบว่าใครเป็นใคร ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มชายชุดดำเดินเข้ามาห้ามชายที่ถือไม้เบสบอล ซึ่งตนก็ไม่เห็นว่าเหตุการณ์ต่อไปเป็นอย่างไร เพราะหัวหน้าเรียกให้เข้าไปทำงาน ทั้งนี้ ตนย้ายมาทำงานบริเวณนี้ได้ประมาณ 3 เดือน ก็ไม่ค่อยจะเห็นว่าจะมีอุบัติเหตุ หรือเรื่องทำร้ายร่างกายกัน แต่ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมาก
ด้าน นายรังสรรค์ อิวปลา อายุ 69 ปี คนขับแท็กซี่ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนขับรถกลับจากส่งผู้โดยสารย่านบางจาก และกำลังจะขับรถเข้าย่านสุขุมวิท ในซอยเอกมัย 6 หลังจากนั้นตนขับมาถึงบริเวณหน้าสถานบันเทิง มีลูกค้าเรียกใช้บริการ ตนจึงจอดรับผู้โดยสาร จนกระทั่งกำลังจะขับรถออก ตนยืนยันว่าดูกระจกข้างและมองรถด้านหลังแล้วเป็นอย่างดี แต่มีรถหรูคู่กรณีขับมาด้วยความเร็ว และชนท้ายรถของตนอย่างแรง ทำให้รถได้รับความเสียหาย
หลังจากนั้น ขณะที่ตนกำลังจะเปิดประตูรถลงไปพูดคุย แต่ได้ยินเสียงคล้ายคนใช้ของแข็งทุบที่กระจกรถฝั่งคนขับจนแตก จากนั้นคู่กรณีใช้ไม้เบสบอลทำร้ายตน จนกระทั่งมีพลเมืองดีเข้ามาห้าม พร้อมมีเสียงตะโกนว่า “อย่าทำร้ายคนแก่” โดยไม่ทันเห็นว่ามีการ์ดของสถานบันเทิงเข้ามาทำร้ายร่างกายคู่กรณีหรือไม่ และหลังจากนั้น ตนได้โทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจได้เรียกตนเข้าให้ปากคำพร้อมตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว โดยแพทย์ระบุว่า ตนมีอาการฟกช้ำ บาดเจ็บที่บริเวณกราม
นายรังสรรค์เล่าต่อว่า ตั้งแต่ตอนเกิดเรื่องจนถึงขณะนี้ ตนก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือได้รับการติดต่อจากคู่กรณี เพื่อขอเยียวยาหรือรับผิดชอบแต่อย่างใด แต่ถ้าหากจะมีการเรียกร้องขอค่าเสียหายจากตนหลังรถหรูเกิดความเสียหายนั้น ตนก็คงไม่มีให้ เพราะนอกจากขับแท็กซี่แล้ว ตนมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทเท่านั้น หากจะต้องชดใช้ก็คงต้องหักเงินจากเบี้ยผู้สูงอายุไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ หากคู่กรณีเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน ตนก็ไม่มีปัญหาและก็คงจะไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน แต่หากพูดคุยตกลงกันไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย
ภาพจากเฟซบุ๊กของนายเบญจ์ ที่ถ่ายร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ได้โกรธคู่กรณี และถึงแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นหลานของนักการเมืองชื่อดังก็ไม่ได้กังวล เนื่องจากมั่นใจว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป คงไม่มีใครทำอะไรตามใจชอบได้ และอยากขอให้คู่กรณีหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วด้วย
ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ