บทความโดย : ไม่มีใครพูด
* ใครๆก็อยากมีลูก แต่…
บ้านเราคู่รักหนุ่มสาวต้องมีลูก พอแต่งงานก็ "อยากมีตัวเล็กเป็นของตัวเอง" แล้วทั้งสังคมครอบครัวพ่อแม่ปู่ย่ากดดัน "อยากอุ้มหลานเร็วๆ" แถมสมัยนี้บรรทัดฐานสังคม หนุ่มสาวนิยมมีลูกก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ เลยบางทีแต่งงานกันโดยจำเป็น ไม่ใช่ความรัก
ชีวิตคู่ที่ลุ่มๆดอนๆก็สู้กันไป เพราะโตแล้วทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่ แต่เด็กๆล่ะ ชีวิตที่เพิ่งเริ่มต้นของพวกเค้าจะเป็นไง ชีวิตที่เค้าไม่มีสิทธิ์เลือกเลย
* ไม่ใช่ทุกคนที่ควรมีลูก
ไม่โลกสวย ในความเป็นจริงผู้คนในสังคมมีทั้งดี (มีวุฒิภาวะ) และร้าย (เอาแต่ใจ) บางคนโตแล้วยังเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆ ห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย ตัดสินใจผิดเสียหายชีวิตตลอด บางคนเห็นแก่ตัวมาก ชอบทำร้ายคนอื่น รู้จักแต่ใช้ความรุนแรงตัดสินความขัดแย้ง
คนเหล่านี้แม้เราผู้ใหญ่เจอแวบเดียวก็แย่แล้ว อยากหนีให้ไกลที่สุด
แต่ปรากฎว่ามีเด็กๆมากมายที่ต้องทนอยู่กับคนแบบนั้นตั้งแต่เกิด เพราะมีพ่อแม่ที่ขาดวุฒิภาวะ เอาแต่ใจ ติดความรุนแรง ความสัมพันธ์ล้มเหลว เด็กๆถูกทำร้ายด้วยคำพูดหรือกำลังตั้งแต่เด็กจนโต หนีไปไหนไม่ได้เหมือนเรา
หลายคนสุดท้ายโตขึ้นก็เลยกลายเป็นคนแบบนั้น เพราะไม่รู้จักชีวิตแบบอื่น พวกเค้าจะมีสายตาที่มองโลกในแง่ร้ายสุดๆ จากประสบการณ์วัยเด็ก แล้วก็เลยทำแบบเดียวกันกับลูกต่อไปอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ จึงเป็นวงจรอุบาทว์ที่หมุนตัวเองไปไม่รู้จบ
* ฉันไม่น่าเกิดมาเลย ทำไมต้องทำให้ฉันเกิดมาด้วย
บางทีจะได้ยินเด็กๆบ่นอย่างนั้นไปตลอดชีวิต
ครอบครัวแบบนี้มีเยอะแค่ไหน? ลองมองไปรอบๆตัวก็เห็น ยิ่งในข่าวและดราม่ายิ่งเห็นประจำ จะตลาดบนตลาดล่างก็มีหมด เพราะวุฒิภาวะไม่ใช่เป้าหมายในการเติบโตของคนสมัยนี้ (เป็นฐานะและความสำเร็จต่างหาก) และ
* การมีลูกถือเป็นความพอใจ ไม่ใช่งานอันศักดิ์สิทธิ์?
การมีเด็กเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสวยงามในทุกวัฒนธรรม ทุกคนรู้สึกดีกับมันเสมอ เพราะสัญชาตญาณทำให้เรารู้สึกดีกับการขยายพันธุ์ แต่ลองนึกถึงประสบการณ์ของเด็กคนนั้น
วัยเด็กยี่สิบปีในครอบครัวแบบนั้นใครทนได้บ้าง
ถ้าสงสารเด็กๆ สังคมน่าจะสร้างบรรทัดฐานว่า การมีลูกเป็นงานอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับครอบครัวที่พร้อม คนที่จะมีลูกจะต้องมีความความมั่นคงทางกายและใจ มี "วุฒิภาวะ" สมวัยคนจะเป็นพ่อแม่จริงๆ
ถ้าคุมอารมณ์ไม่ได้ ยังเอาแต่ใจ เมื่อไม่ได้ดังใจก็ยังใช้ความรุนแรงทางวาจาหรือกายเหมือนเด็กๆ ก็ควรมองว่าตัวเองยังไม่พร้อมจะมีลูก ก็แค่คุมกำเนิดไปก่อน (ระวังไม่ให้ถุงยางแตกด้วย เห็นในข่าวแตกบ่อยเหลือเกิน)
จริงจังกับเรื่องนี้มากๆ การวางแผนครอบครัว เพราะคู่ที่ไม่พร้อมเมื่อมีลูก ชีวิตทั้งพ่อแม่ลูกก็จะพังไปด้วยกันหมด ยิ่งเมืองไทยพ่อแม่วัยใสจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนทันที อนาคตที่เคยฝันดับวูบหายไปกับตา
* สำคัญที่ชีวิตเด็ก ไม่ใช่ความสุขของพ่อแม่
หนุ่มสาวไม่ควรมีลูกเพราะอยากได้สมาชิกน่ารักๆมาอยู่ในทีม ไม่ควรมีลูกเพื่อจะได้รู้สึกตัวเองมีคุณค่า เพื่อจะได้ไม่เหงาในวัยชรา เพราะการสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมา สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวพ่อแม่ แต่คือคุณภาพชีวิตของชีวิตใหม่นั้น เพราะมันจะส่งผลต่อไปถึงหลานเหลนโหลนเป็นทวีคูณ เมื่อเด็กคนนั้นสืบทอดชีวิตพังๆนี้ต่อไปอีกกี่ชั่วคน
ถ้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างสมาชิกใหม่ที่มีความสุข และเติบโตอย่างมีวุฒิภาวะ คู่รักก็ควรจะพัฒนาตัวเองให้พร้อมก่อน สร้างความมั่นคงทางกายและใจ พัฒนาวุฒิภาวะตัวเองจนกว่าจะพร้อมเป็นพ่อแม่จริงๆ (เช่นอย่างน้อยต้องสามารถแอบทะเลาะกันได้โดยลูกไม่เคยเห็น)
* เมื่อการมีลูกเป็นงานอันศักดิ์สิทธิ์ สังคมจะมีแต่สมาชิกที่มีคุณภาพ
สังคมที่คนจะมีลูกก็ต่อเมื่อพร้อมทั้งกายและใจ เด็กๆก็จะไม่ต้องเจอปัญหาเรื้อรังที่กลายเป็นปมไปตลอดชีวิต จนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหา ถ้าเกิดค่านิยมในการมีลูกอย่างรับผิดชอบ สังคมก็จะค่อยห่างจากปัญหาความยากจนและอาชญากรรม เมื่อสมาชิกทุกคนเติบโตในครอบครัวที่อบอุ่น สังคมที่ผู้คนมีวุฒิภาวะสมวัย
แค่เลิกคิดถึงตัวเองเป็นหลัก การสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาเป็นเรื่องใหญ่มาก ชีวิตคนทั้งคนยาวนานหลายสิบปี หนุ่มสาวจึงควรตระหนักความรับผิดชอบต่ออนาคตเด็กเป็นหลัก จะตัดสินใจสร้างเค้าขึ้นมา ก็ต่อเมื่อมั่นใจว่า ตัวเองจะสามารถช่วยให้เค้ามองเห็นโลกที่สวยงามนี้ได้ตามเป็นจริง
#เห็นด้วยแชร์เลย
#เรื่องนี้ #ไม่มีใครพูด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ