เศรษฐีจังหวัดชลบุรี มอบเงินช่วยเหลือ ครูวิภา ที่ถูกยึดทรัพย์หลังลูกศิษย์เบี้ยวไม่จ่ายหนี้ กยศ. แต่ด้านครูวิภา ขอนำเงินส่วนนี้ไปช่วยเด็กที่เดือดร้อนจริงๆ
จากกรณี ครูวิภา บานเย็น อายุ 47 ปี ผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ได้ไปเซ็นค้ำประกันเงินกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้กับลูกศิษย์กลุ่มหนึ่ง จำนวน 60 ปี ในช่วงปี 2541 – 2542 และในภายหลังปรากฏว่า นักเรียน 20-30 คนที่จบการศึกษาไปแล้ว ไม่ได้ใช้หนี้ กยศ. ทำให้มีหนังสือติดตามทวงหนี้ส่งมายังครูวิภา และมีหนังสือจากกรมบังคับคดีมายึดทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน มูลค่ารวมล้านกว่าบาท จึงทำให้ครูวิภาต้องเดินหน้ายื่นเรื่องติดต่อทาง กยศ. เพื่อไกล่เกลี่ย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าช่วยเหลือ
จนกระทั่ง กยศ. สั่งระงับการบังคับคดีและขายทอดตลาดสินทรัพย์ของครูวิภา และเร่งติดตามลูกศิษย์ที่ติดหนี้ กยศ. มาชดใช้หนี้ แต่ครูก็ยังกังวลว่า แม้ กยศ.จะชะลอการบังคับคดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคดีจะสิ้นสุด เพราะถ้าสืบทรัพย์ของเด็กไม่ได้ ก็จะวนมาที่ตัวเองอยู่ดี
ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ในฐานะประธานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครูวิภา บานเย็น ซึ่งในที่ประชุมระบุว่า ตอนนี้ยังต้องติดตามผู้กู้อีก 22 ราย โดยให้ทางอำเภอติดตามพูดคุยกับผู้กู้ภายใน 7 วัน แล้วให้รายงานทางจังหวัดได้ทราบ
อย่างไรก็ตามมีชาวชลบุรี แจ้งความประสงค์ผ่านผู้ว่าฯ กำแพงเพชร มาว่า ต้องการช่วยเหลือครูวิภา โดยการมอบเงินให้ครูวิภาจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปชำระหนี้ที่เกิดจากการค้ำประกันเงินกู้ กยศ.ให้กับลูกศิษย์ อีก 22 ราย ที่ยังไม่ได้ชำระ
ทางด้านครูวิภาเปิดเผยว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือ ส่วนเงินที่มีผู้ใจดีช่วยเหลือมานั้น จะขอใช้เป็นกองทุนชำระหนี้ให้กับเด็กที่มีความเดือดร้อนจริงๆ จนไม่สามารถชำระหนี้ กยศ.ได้
ทั้งนี้ ครูวิภายังบอกอีกว่า ตอนนี้ยังไม่สบายใจแบบ 100% เพราะคดีความยาวไปถึงปี 2571 จึงอยากจะขอเปลี่ยนคนค้ำประกันที่ยังเหลืออีก 22 ราย ปลดภาระยกหนี้ครูไปให้ผู้กู้หรือผู้ปกครอง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด ทำได้เพียง 10 รายเท่านั้น อีก 12 รายนั้นเป็นคดีความไปแล้ว จึงไม่สามารถที่จะทำการเปลี่ยนคนค้ำประกันได้ ส่วนเรื่องการค้ำประกันให้กับลูกศิษย์หลังจากนี้ ครูวิภาบอกว่า จะต้องขอดูเป็นรายๆ ไป
ข่าวจาก : https://www.sanook.com/news/7416130/
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ