ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา นายพงศกร มาเขียว นิสิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร(มน.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Home Phongsakon Makhiao” แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมประชุมเชียร์ ด้วยข้อความว่า “เข้าห้องเชียร์ไปทำไม มีรุ่นแล้วได้อะไร หลายคนไม่ได้เต็มใจที่จะทำละจะรู้สึกเช่นไร สิทธิมนุษยชนของพวกเราไปอยู่ที่ไหน ขอฝากตอบข้อสงสัยหน่อยนะครับ (ไม่ได้โจมตีคณะสังคมนะครับ แต่อยากจะฝากถึงทุกๆ คณะที่ยังเป็นเช่นนี้)”
พร้อมกันนั้นได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงอธิการบดี มน. เรื่องถ้าไม่เข้าประชุมเชียร์และไม่คล้องป้ายชื่อจะไม่จบการศึกษา
โดยมีใจความว่า
“กระผมนายพงศกร มาเขียว นิสิตคณะสังคมศาสตร์ มีข้อสงสัยที่อยากจะสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกระผมได้ข้อมูลจากรุ่นพี่และสโมสรนิสิตว่าถ้าไม่เข้าร่วมกิจกรรมการประชุมเชียร์ และไม่คล้องป้ายชื่อ ผมจะไม่มีสิทธิที่จะจบการศึกษาในมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ใช่ไหมครับ ถึงแม้ว่ากระผมจะเรียนจบหรือได้เกียรตินิยมก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิจบในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงตามที่รุ่นพี่ในคณะบอกมา กระผมก็จะได้ขอลาออกจากการเป็นนิสิตเพราะด้วยเรื่องกิจกรรมที่ผมไม่ได้เข้าร่วมจะมีผลในอนาคตจนทำให้ผมไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ ซึ่งกระผมคิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ที่อยากมาเรียนหนังสือมากกว่าทำกิจกรรมเชียร์ จึงเรียนมาเพื่อโปรดชี้แจงข้อเท็จจริง”
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายพงศกรได้โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมคล้องป้ายชื่อว่า “คล้องป้ายชื่อแล้วได้อะไร ได้รู้จักกันอย่างนั้นหรือ? ใครเป็นคนบอกว่าคล้องป้ายชื่อแล้วจะได้รู้จักกัน อาจจะรู้จักแค่ชื่อ จะบอกให้นะ มึงคล้องป้ายชื่อ ก็แค่บ่งบอกแค่ชื่อ แต่มึงจะไม่รู้จักนิสัยกัน เพราะมึงดูห่างๆ ก็รู้ว่าคนนั้นคนนี้ชื่ออะไร แต่มึงจะไม่รู้ว่าเขามาจากไหน ที่ใด เป็นคนเช่นไร นิสัยอย่างไร เพราะมึงรู้จักชื่อเขาโดยที่มึงไม่ได้เข้าไปถาม ถ้าอยากรู้จักเขาจริงๆ มึงก็แค่เข้าไปทักถามไถ่ มึงจะได้ทั้งชื่อ และความสัมพันธ์แบบมิตรภาพมาอีกด้วย
ฝากอยากให้คิด
มิตรภาพ ในสังคมความเป็นจริง ไม่มีใครคล้องป้ายชื่อบ่งบอกว่ากูชื่อนู้นนี่นั่น มึงอยากรู้จัก ก็เข้าไปหาแค่นั้น… #หัวร้อนหน่อยๆ
อะไรที่ล้าหลังทำตามกันมาเป็นประเพณี แต่ไม่เกิดประโยชน์ ก็ควรจะพิจารณาเสียใหม่นะ อะไรๆ มันจะได้เจริญขึ้น
#คิดเห็นเช่นไรอยากได้มุมมอง”
ขอบคุณข้อมูลจาก : Home Phongsakon Makhiao
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ