เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า จากการประชุมวันนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้ผู้มีอำนาจสั่งลงโทษตามข้อ 3 ของกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน พ.ศ. 2561 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 มีอำนาจสั่งลงโทษลดเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ครั้งหนึ่งไม่เกินหนึ่งขั้นไปพลางก่อน จนกว่ากฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. … มีผลบังคับใช้
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ ว 22 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ดังนี้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยให้ประเมินตนเอง พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาตนเองเป็นรายปี ตามแบบที่ส่วนราชการกำหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ในรอบ 5 ปี ที่ขอรับการประเมินให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ ต้องมีจำนวนชั่วโมงการพัฒนา 100 ชั่วโมง หากมีจำนวนชั่วโมงการพัฒนาไม่ครบ 100 ชั่วโมง แต่ไม่น้อยกว่า 60 ชั่วโมง สามารถนำจำนวนชั่วโมง การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ส่วนที่เกิน 50 ชั่วโมงในแต่ละปี มานับรวมเป็นจำนวนชั่วโมงการพัฒนาให้ครบ 100 ชั่วโมงได้ และหลักสูตรการพัฒนาต้องมีองค์ประกอบด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านความเป็นครู และด้านคุณลักษณะที่คาดหวัง โดยต้องเป็นหลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรองตามมาตรฐานวิทยฐานะ หรือตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทั้งนี้ สามารถนำจำนวนชั่วโมงการพัฒนาที่เข้ารับการอบรมในสถาบันวิชาการอื่น ๆ เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณารับรองได้ โดยให้ส่วนราชการเสนอหลักสูตรพัฒนาต่อ ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณารับรอง
“ที่ประชุมยังรับทราบกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) มีนโยบายที่จะให้การสอบบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทรวมถึงข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จะต้องสอบภาค ก กับ ก.พ. โดยก.พ.จะเป็นผู้ดำเนินการสอบภาค ก ทั้งหมด เพื่อจะได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีความโปร่งใสในการเข้าสู่ระบบราชการ ลดภาระผู้สอบเข้ารับราชการ ทั้งค่าใช้จ่าย เวลา และการเดินทาง และลดค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดำเนินการสอบ โดยปฏิทินการสอบ เห็นควรให้มีการสอบอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับภาค ข และภาค ค เป็นรายละเอียดที่แต่ละหน่วยงานจะไปกำหนด คาดเริ่มภายในปี 2563 นี้” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ