เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายเอกชัย อิสระทะ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ อดีตแกนนำพันธมิตรภาคใต้และผู้ชุมนุม กปปส. ออกแถลงการณ์ขอโทษการเข้าร่วมชุมนุม กปปส.ที่มีส่วนเป็นต้นเหตุให้เกิดการรัฐประหาร และถูกตั้งคำถามหลังนายเอกชัยเข้าร่วมกับพรรคสามัญชนและได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรค
– โดยแถลงการณ์ ได้ระบุว่า
“ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พรรคสามัญชนถูกตั้งคำถามจากเพื่อนพ้องในสังคม แต่ผมถือว่าเป็นการดีที่เราจะต้องถูกตรวจสอบทั้งในอุดมคติและการปฏิบัติว่าเราได้ทำอะไรๆ สอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร และพรรคสามัญชนของเราจะออกแบบ จัดวางกลไกกระบวนการพิจารณา การกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกและผู้มาทำหน้าที่ให้พรรคอันเป็นการพัฒนาระบบพรรคให้สังคมรับรู้ต่อไป
ผมเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวระดับจังหวัดสงขลาจริงในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา (1) ที่ตั้งเวทีหลังสถานีรถไฟหาดใหญ่ในปี 2548-2549 หลังจากนั้นกลับไปอยู่บ้านที่อำเภอรัตภูมิ สงขลา จึงไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวอื่น
สำหรับกรณีของ กปปส. ผมเป็นมวลชนคนหนึ่งที่ออกมาเดินใช้สิทธิในการชุมนุม ไม่ได้เป็นแกนนำใดๆ ไม่เคยไปชุมนุมหารือ วิเคราะห์หรือวางแผนสถานการณ์ใดๆ กับแกนนำ กปปส. ทั้งในภาคใต้และส่วนกลาง แต่อาจจะมีการกระทำหนึ่งที่อาจถูกนับว่าเป็นแกนนำได้ตรงที่ผมและเพื่อนพี่น้องในชุมชนอำเภอรัตภูมิได้จัดตั้งเวทีปราศรัยขึ้นที่สี่แยกคูหา
วัตถุประสงค์ก็เพื่อปราศรัยและถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมจากส่วนกลาง ช่วงระหว่างนี้การชุมนุมจากส่วนกลางยังเป็นการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอยู่ แต่หลังจากการชุมนุมจากส่วนกลางขยายตัวไปมากกว่าการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เวทีก็ได้ถูกยึดและเคลื่อนย้ายมาที่หน้าอำเภอรัตภูมิโดยพรรคการเมืองหนึ่ง ผมก็ได้ถอยออกมา
เนื่องจากผมไม่เคยเชื่อมั่นหรือไว้ใจใดๆ ต่อพรรคนั้นมาเนิ่นนานแล้วจากหลายกรณีที่พรรคนี้ผลักดันการพัฒนาในภาคใต้ที่ผมและเพื่อนๆ ต่อสู้คัดค้านร่วมกับพี่น้องประชาชน
ผมขอโทษต่อพี่น้องที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวครั้งนั้นนำพาไปสู่การรัฐประหาร
ผมไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิของพี่น้องในชุมชนที่ถูกละเมิดจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ภายใต้โครงสร้างการเมืองที่คนชายขอบตกเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด
กรณีพันธมิตรสงขลาได้มีการแถลงผ่านสื่อในการไม่เห็นด้วยกับ คมช.ที่ยึดอำนาจซึ่งเป็นการทำลายพลังประชาชนในช่วงหลังการยึดอำนาจของ คมช. สำหรับล่าสุด หลังการยึดอำนาจปี 2557 ในเดือนกันยายนขาหุ้นปฏิรูปพลังงานได้เดินรณรงค์เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปพลังงานจากหาดใหญ่ไปกรุงเทพฯ
หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวคัดค้านโครงการที่ต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลประชาธิปัตย์จนถึงรัฐบาล คสช. คือแลนด์บริดส์สะพานเศรษฐกิจสงขลา-สตูล อันประกอบด้วยโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล ท่าเรือน้ำลึกสวนกง จ.สงขลา รถไฟขนตู้คอนเทนเนอร์ การระเบิดหินเขาคูหา การดูดทรายคลองรัตภูมิ รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
ซึ่งเป็นชุดโครงการเดียวกันที่จะทำลายฐานทรัพยากรชุมชนภาคใต้ไปเป็นเมืองอุตสาหกรรม รวมถึงการร่วมลงรายชื่อยกเลิกคำสั่ง คสช.ร่วมกับเพื่อนมิตรจากภูมิภาคต่างๆ และการร่วมเดิน We Walk กับพี่น้องที่เดือดร้อนจากปัญหาทรัพยากรและที่ดินทั่วประเทศ ฯลฯ
การมาร่วมกับพรรคสามัญชนในครั้งนี้ก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาวที่ไม่เพียงการสร้างประชาธิปไตยจากฐานราก แต่ต้องปกป้องสิทธิมนุษยชน สิทธิของชุมชน และสร้างความเท่าเทียมระหว่างคนในศูนย์กลางอำนาจกับคนชายขอบที่ถูกละเลยมาโดยตลอด
และเชื่อว่าพรรคสามัญชนจะเป็นเครื่องมือของเรา เป็นอุดมคติของเรา คนชายขอบของอำนาจที่ไม่เคยได้กำหนดอนาคตของชีวิตตัวเองตลอดเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาที่จะเปลี่ยนโครงสร้างสังคมการเมืองที่ขูดรีดทรัพยากรและชีวิตของคนเล็กคนน้อยเพื่ออภิสิทธิ์ชน ภายใต้ความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย
กระนั้นก็ดีก็คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตที่ผมและพรรคสามัญชนจะต้องพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือไม่
สุดท้ายนี้ ขอกล่าวคำขอโทษอีกครั้งหนึ่งสำหรับผู้สูญเสียความศรัทธาและเชื่อมั่นต่อพรรคสามัญชนอันมีต้นสายปลายเหตุจากกระทำในอดีตที่ผ่านมาของผม”
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ