เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ต.ต. ที่สน.ลุมพินี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พ.ต.อ.อัครวุฒิ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ลุมพินี พร้อม ตำรวจ สตม. ตำรวจ ทท. และสน.วัดพระยาไกร ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายลี ซุง คุน อายุ 42 ปี ชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับประเทศเกาหลีใต้ ในคดีฉ้อโกง รวม 7 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 190 ล้านวอน หรือ 6 ล้านบาท จับกุมตัวได้ที่คอนโดหรูที่ ถนนพระราม3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ปรากฎในข่าวตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปนั้น ว่ามีผู้พักอาศัยที่คอนโดมิเนียมดังกล่าว ได้ร้องเรียนวัดไทร ในกรณีที่ตีระฆังส่งเสียงดังรบกวนชาวต่างชาติที่มาเช่าอาศัยอยู่ในคอนโดฯ ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ ตามมาตรา 38 พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง โดยระหว่างการตรวจสอบรายชื่อชาวต่างชาติที่เข้าพักอาศัยในคอนโดฯแห่งนี้พบ นายลี จึงได้ขอตรวจสอบพบมีประวัติถูกออกหมายจับของประเทศเกาหลีใต้ ในคดีฉ้อโกง 7 คดี จึงควบคุมตัว จากการตรวจสอบพบว่าหลบหนีคดีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ประมาณ 6 ปี มีการเปลี่ยนที่อยู่หลายครั้ง ก่อนจะมาเช่าห้องพักที่คอนโดฯ ดังกล่าว เมื่อหลายเดือนก่อนโดยเสียค่าเช่าเดือนละ 30,000 บาท เมื่ออยู่ในไทยมีอาชีพเป็นยูทูบเบอร์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร อยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด” และประสานทางการเกาหลีใต้ มารับตัวและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
โดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) หลังมีการร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาติเข้าพักผิดกฎหมาย จึงนำกำลังตรวจสอบ โดยมีเป้าตรวจ 30 ห้อง แต่สามารถตรวจสอบได้ เพียง 6 ห้อง พบว่า ชาวต่างชาติ 5 คน มีการแจ้งที่พักถูกต้องกับ สตม. และ 1 คนเป็นชาวเกาหลีใต้ พบมีหมายจับ ส่วนเจ้าของห้องให้เช่าทั้งหมด ไม่ได้แจ้ง สตม. จึงประสานเรียกปรับ 1,600 บาท หากไม่มาเสียค่าปรับจะถูกออกหมายเรียก 2 ครั้ง และครั้งที่ 3 จะถูกออกหมายจับ ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และจะดำเนินการตรวจสอบสถานที่พักอื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป ซึ่งในการตรวจค้นครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ห้องพักที่ร้องเรียนเสียงระฆังวัดไทร และฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ทราบว่าเป็นห้องใด โดยเป็นการตรวจสอบเนื่องจากมีการร้องเรียนมาว่า ที่คอนโดฯ มีคนต่างชาติเข้ามาพักอาศัยเท่านั้น
จึงขอฝากเตือนผู้ที่ให้ชาวต่างชาติพักพิงที่ผิดกฎหมาย หากไม่แจ้งพบจะมีการกระทำผิด สัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถจับกุมชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย แบบผิดกฎหมาย กว่า 400 ราย นอกจากนี้ยังผู้ที่โอเวอร์สเตกว่า 70,000 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการกวดขันและจับกุมต่อไป
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ