เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับใครหลายๆคนอยากรวยทางลัดโดยหาชาวต่างชาติรวยๆเป็นคู่ชีวิตแต่ก็ต้องไปเจอกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาใช้ กิเลส ตัณหา ในจุดนี้เพื่อหากิน เช่นเดียวกับเรื่องราวต่อไปนี้ เรื่องราวของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี มีอาชีพเป็นสาวโรงงาน ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นนักบินต่างชาติ เข้ามาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก และส่งภาพสิ่งของมีค่ามาให้ดู และหลอกให้โอนเงินกว่า 1 แสนบาท
น.ส.เอ (นามสมมุติ) ซึ่งพักอาศัยอยู่ในตำบลกระแสบน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินกว่า 1 แสนบาท โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว มีคนเข้ามาเป็นเพื่อนพูดคุยในเฟซบุ๊ก โดยเป็นภาพของชายชาวต่างชาติแต่งชุดเครื่องแบบนักบิน
จากนั้นพูดคุยกันได้ประมาณ 2 เดือน ชายคนดังกล่าวได้ส่งภาพสิ่งของมีค่า พร้อมกับภาพเงินมาให้ดู พร้อมกับพิมพ์ข้อความว่า จะส่งของทั้งหมดมาให้ แต่หญิงผู้เสียหายจะต้องไปรับเงินและสิ่งของที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ด้วยความไม่รู้จึงทำให้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) หลงเชื่อ แต่ยังไม่ทันเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ชายคนดังกล่าวก็พิมพ์ข้อความบอกกับผู้เสียหายว่า ต้องเสียเงินค่าปรับ เป็นจำนวนเงินนับหมื่นบาท และให้โอนเงินเข้าบัญชีซึ่งเป็นบัญชีของผู้หญิงคนหนึ่งโดย น.ส.เอ (นามสมมุติ) ก็หลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีให้กับมิจฉาชีพถึง 3 ครั้ง รวมเป็นเงินแล้วกว่า 1 แสน 1 หมื่นบาท โดยไม่บอกสามีให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อมาสามีตรวจดูเงินในบัญชีถึงกับตกใจ พบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปเป็นจำนวนมาก จึงสอบถามหญิงผู้เสียหายที่เป็นภรรยา จึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.แกลง จังหวัดระยอง แต่ไม่มีความคืบหน้า
น.ส.เอ (นามสมมุติ) จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเปิดเผย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่น และระหว่างที่หญิงผู้เสียหาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว มิจฉาชีพได้พิมพ์ข้อความส่งมาหาผู้เสียหาย โดยหลอกให้ส่งเงินไปให้อีกโดยอ้างว่าจะส่งของมาให้ และจะเดินทางมาประเทศไทยเดือนหน้า
แต่เมื่อรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก จึงได้พิมพ์ข้อความตอบกลับว่า กำลังจะไปหาเงิน และโอนไปให้และมิจฉาชีพ ได้ให้เบอร์โทรศัพท์มือถือ โดยอ้างว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทที่ทำงาน พร้อมกับตีเนียนขอหมายเลขบัญชีธนาคารของหญิง ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะส่งเงินค่าปรับของศุลกากรเข้าบัญชีคืนให้
แต่ถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ปฏิเสธ ซึ่งมิจฉาชีพพยายามพิมพ์ความหว่านล้อมต่างๆ นานาพร้อมกับพิมพ์ข้อความให้หญิงผู้เสียหาย ไม่ต้องกลัวหรือเป็นกังวลใดๆ ซึ่งมิจฉาชีพ อ้างว่าจะมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย
ทั้งนี้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ต้องการให้ตำรวจติดตามจับตัวคนร้าย เพราะมีหลักฐานชื่อและบัญชีธนาคาร ที่โอนไปให้เป็นธนาคารอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งหญิงผู้เสียหายเชื่อว่า หากตำรวจจับตัวมิจฉาชีพได้ จะได้เงินกลับคืนมาบ้างก็ยังดี
ข้อความแชทบางส่วน
ขอบคุณภาพจาก : sanook new
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ