แบงก์รัฐ 9 แห่ง จับมือปตท. ดึงสาขาลงปั๊ม ย้ายจากห้าง ที่ค่าเช่าแพงเดือนละ 4-5 แสน ไปอยู่ปั๊มน้ำมันแทน หวังลดต้นทุน-เพิ่มความสะดวกแบบจุดเดียว เปิดให้บริการสาขาแรกได้ภายในไตรมาสแรกปีหน้า
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และประธานสภาสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 9 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย เพื่อขยายช่องทางให้ลูกค้าประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสถาบันการเงินของรัฐได้สะดวก พร้อมกับส่งเสริมนโยบายสร้างอาชีพ สร้างรายได้สู่ชุมชนฐานรากประเทศ
ปัจจุบันสถาบันการเงินรัฐมีสินทรัพย์รวมถึงกว่า 8.5 ล้านล้านบาท สินเชื่อคงค้างกว่า 7.1 ล้านล้านบาท และลูกค้ารวมกว่า 46.5 ล้านราย ซึ่งการร่วมมือกับ ปตท.และไปรษณีย์ไทย ครั้งนี้จะช่วยให้บริการธุรกรรมทางการเงินและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. นอกจากนี้ ยังร่วมกันส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน สนับสนุนการกระจายสินค้า ลดต้นทุนการบริหารจัดการ โดยใช้ปั๊มน้ำมัน ปตท. เป็นจุดรับส่งสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ อีมาร์เก็ต
“ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้สถานีบริการน้ำมันปตท.มีบริการเพิ่มอีก 2 อย่างคือ มีสาขาหรือจุดบริการของสถาบันการเงินรัฐเข้าไปตั้งให้บริการในรูปแบบ เอสเอสไอ คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งธนาคารจะพิจารณาย้ายสาขาที่อยู่บนห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีค่าเช่าแพงเดือนละ 4-5 แสนบาท ไปอยู่ปั๊มน้ำมันแทน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกแบบจุดเดียว ขณะเดียวกันจะเปิดให้ลูกค้าธนาคารรัฐมาใช้ปั๊มปตท. เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าชุมชน พร้อมกับมีระบบซื้อขายออนไลน์ของธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ไว้บริการซื้อขายสินค้าด้วย”
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้จะมีการประสานกับปตท.เพื่อคัดเลือกปั๊มน้ำมันในส่วนภูมิภาค มาจัดตั้งเป็นสาขานำร่อง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้ และจากนั้นจะมีการพัฒนาพื้นที่ สามารถเปิดให้บริการสาขาแรกได้ภายในไตรมาสแรกปีหน้า นอกจากนี้ ธนาคารรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือชุมชนในการพัฒนาสินค้าชุมชนให้มีความน่าสนใจ เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ทั้งในส่วนของการออกแบบผลิตภัณฑ์ การทำการตลาด การจำหน่ายผ่านออนไลน์เพื่อช่วยชุมชน ผู้มีรายได้น้อย
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า เบื้องต้น ธ.ก.ส. มีความพร้อมจะคัดเลือกผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ เกษตร และชุมชน มาจัดจำหน่าย ณ สถานีบริการน้ำมันปตท. รวมถึงใช้จุดดังกล่าวเป็นศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยช่วงเริ่มแรกจะมีสินค้า 95 รายการ มาจำหน่าย ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น รังนกพร้อมดื่มสำเร็จรูป จมูกข้าวกล้องงอกชนิดผงสำหรับชงดื่ม แชมพูสระผมน้ำนมข้าว ครีมอาบน้ำน้ำนมข้าว
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ขณะนี้ออมสินได้มีการจัดทำระบบอีมาร์เก็ตเพลส พร้อมแล้ว และพร้อมจะสนับสนุนนำสินค้าชุมชนที่อยู่ในเครือข่ายธนาคารรัฐไปวางจำหน่าย โดยสามารถวางขายได้นับพันรายการ โดยมีออมสินเข้าไปช่วยวางระบบการจัดจำหน่ายให้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่า การร่วมมือครั้งนี้จะมีการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าชุมชน หรือเอาท์เล็ทที่ปั๊มน้ำมันปตท. ขณะเดียวกันธนาคารรัฐจะเข้าไปชวยพัฒนาด้านการตลาด การผลิตสินค้าช่วยชุมชนทำให้ขายสินค้าโอท็อป สินค้าชุมชนต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ ที่จะมีไปรษณีย์ไทยมาช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้าให้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมอบหมายหน้าที่ให้ธนาคารรัฐเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่สังคมดิจิทัล โดยให้มีการจัดทำบิ๊กดาตา เชื่อมโยงข้อมูลการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เป็นลูกค้าของธนาคารทั่วประเทศ ให้เป็นไปตามพันธกิจหรือความเชี่ยวชาญของแต่ละธนาคาร
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ