จากข่าวดังที่นายตำรวจนายหนึ่งขับรถชนรถพยาบาล ทำให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก พยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่นำหญิงท้องแก่ส่ง รพ.เพื่อทำคลอด ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม : รตอ.ขับชนรถรพ. พยาบาลดับ1เจ็บ1
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เพื่อนพี่น้องคนใกล้ชิดต่างเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก รวมถึงเฟซบุ๊ก Mali Narak ซึ่งเป็นพยาบาลรุ่นพี่แผนกเดียวกับพยาบาลสาวคนดังกล่าว
โดยพยาบาลรุ่นพี่คนดังกล่าวได้โพสต์อาลัยและขอเรียกร้องให้เพื่อนวิชาชีพเดียวกันมีสิทธิมากกว่านี้ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.61 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า…
อพูดในฐานะที่เป็นพยาบาลประจำการห้องอุบัติเหตุ ที่มีภาระหน้าที่ เสี่ยงมากถึงมากที่สุดค่ะ
ยังไง
- ER ก็ด่านหน้า เจ็บป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุ เข้าER
- ทะเลาะวิวาท ไล่ตี ไล่ฟัน เอาคืนคู่ อริ ก็ที่ER
- นอกเวลา ราชการ คือจุดรวมพล ของผู้ป่วยที่เข้ามารอรักษา ทุกประเภท
- ออกรับผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ ด้วยระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เสี่ยงที่โดยสารและเดินทางบนท้องถนน มืดดึกดืนแค่ไหน ก็ต้องไปเพราะหน้าที่
- ส่งต่อผู้ป่วย ตลอด 24 ชม เพราะเขาให้ยึด ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ไม่มีเจ้าหน้าที่พยาบาลไป ส่งต่อแต่ต้องหาให้ได้ เครียดไหม เสี่ยงไหม ในการเดินทาง
- ต้องดูแล แก้ไขอาการเพื่อให้ถึงเป้าหมายคือปลอดภัยแล้วตัวเจ้าหน้าที่ พยาบาลละ ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน
มาตรการขับรถไม่เกิน 90km เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการแก้ที่เราต้องระวัง แต่สภาพรถAmbulanceที่ประเทศไทยใช้อยู่มันเหมาะสมไหมในการทำงาน งานวิจัยวิเคราะห์แล้วว่าไม่เหมาะทำไหมยัง สั่งมาใช้อยู่เรื่อยๆ ระบบภายในวิเคราะห์จัง แต่ไม่ปรับใช้ให้เกิดความปลอดภัยเสียที จะให้พยาบาลนั่งคาดเบลล์แล้วตอนที่ลุกวัดสัญญานชีพ CPR อื่นๆอีกละ จะให้ฉันระวังอย่างไร ถ้าฉันปฏิเสธไม่ไปรีเฟอร์ ฉันมีความผิดไหม เหตุผลเพราะ ฉันเสี่ยงเหลือเกิน กลัวตาย กลัวพิการ พูดได้ไหม คำพวกนี่นะ
"เสียงเพรียกจากสวรรค์"
กรณีน้องพยาบาล จาก รพสต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ชื่นชมน้องจากการมีโอกาสได้เห็นลักษณะการทำงานของน้อง เขียนใบส่งต่อ ผู้ป่วยมารักษาต่อ ที่รพ. ลายมือสวยอ่านง่ายที่สำคัญเขามีความรู้ ทักษะวิชาชีพที่ดีมากจนอยากให้มาตัวอย่างที่ดี ในการเขียน และการทำงาน
จบมาทำงานได้เพียงปี เศษๆ ยังไม่ได้บรรจุ สวัสดิการก็ยังไม่มี ขวนขวยหางานพิเศษ เพื่อสร้างรายได้ สร้างฐานะ ทดแทนพระคุณบิดาที่ส่งเล่าเรียน และดูแลครอบครัว ต้องมายุติชีวิตด้วยเหตุการณ์สะเทือนใจ กราบเลยค่ะขอแค่ 3 ข้อนี้ให้เกิดในชาตินี้เลยได้ไหม
- น้องตายในหน้าที่ ขอปูนบำเน็จเป็นชำนาญการพิเศษเลยได้ไหม (ถึงพวกพี่ๆจะรอขึ้นชำนาญการนานเป็นพิเศษ มาน้าน นานแล้วก็ตาม)
- เงินทดแทน เป็นสวัสดิการ คือ เงินเดือนสุดท้ายที่ได้รับ× อายุราชการที่จะเกษียร มอบให้เป็นก้อนไปเลยค่ะ
- ธงชาติคลุม เป็นเกียรติประวัติแก่วงตระกูล เชิดชูคุณงามความดี เหรียญกล้าหาญขอได้ไหม (เขาจิตอาสามาดูแลผู้ป่วย กล้าหาญ นั่งโดยสารและเดินทางมากับผู้ป่วยเป้าหมายคือส่งผู้ป่วยถึง รพ.ต้นทางอย่างปลอดภัย ทุ่มเท เสียสละขนาดนี้ จิตใจงดงามนะคะ)
ขอเพียงเท่านี้ได้ไหม กับหนึ่งชีวิตที่ต้องสูญเสีย
แต่ความเป็นจริงที่ทำณ.ตอนนี้ คือการร่วมอนุโมทนาบุญที่คอยไหลมา แบบรวยระรินของ สมาชิกในวิชาชีพคนอยู่ข้างหลังเขาจะดำเนินชีวิตไปแบบไหนเมื่อขาดสมาชิกครอบครัวที่กำลังก่อร่างสร้างตัว สร้างฐานะหวังการมีชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้น ความสุข อบอุ่น กลับต้องมลายหายวับไปกับเหตุการณ์สะเทือนใจ จากความประมาทของคนที่ไม่มีจิตสำนึก..
ใครจะมาเรียกร้องสิทธิให้น้องละ ถ้าไม่ใช้กลุ่มพวกเราๆวิชาชีพเดียวกัน ต้องทำในขณะที่ยังมีลมหายใจละค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่า หากวันหนึ่งเราไม่หายใจ จะมีใครมาเรียกร้องสิทธิ ตรงนี้ให้เราไหม….
รักและอาลัย #สุดารัตน์ เชื่อมาก เศร้านะ
โดยหลังจากโพสต์ไป เรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปกว่า 7,200 ครั้ง และมีการคอมเม้นต์กว่า 11,000 รายการ โดยส่วนใหญ่ต่างรู้สึกสงสารในวิชาชีพดังกล่าวที่งานหนัก แต่ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจากกระทรวงต้นสังกัด บางคนก็รู้สึกเสียดายอนาคตของผู้เสียชีวิตที่ไม่น่าด่วนจากไปด้วยอุบัติเหตุ ทั้งที่เป็นคนดี กำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจทุ่มเท
ขอบคุณข้อมูลจาก : Mali Narak
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ