อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงยืนยัน "ภาษีเค็ม" ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษากำหนดประเภทสินค้าบรรจุหีบห่อที่มีปริมาณโซเดียมชัดเจน เช่น ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนข้าวผัดกะเพรา จานด่วน กะเพราแช่แข็ง ปลาเค็ม ไข่เค็ม ไม่เข้าข่ายถูกเก็บภาษีเค็ม
วันนี้ (8 พ.ย.2561) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงชี้แจงกรณีจะจัดเก็บภาษี จากสินค้าที่มีความเค็มและความมันอีกครั้งว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ และเป็นเพียงข้อเสนอจากกรมสรรพสามิต โดยต้องเสนอให้รัฐบาลให้ความเห็นชอบอีกครั้ง
เรื่องสุขภาพของคนในชาติเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่หวังจะช่วยลดภาระงบประมาณด้านค่ารักษาพยาบาลในอนาคต และเรื่องเหล่านี้ ยังอยู่ในขั้นการศึกษาไม่ว่าจะเป็นกรณีอาหารที่มีความมัน หรือไขมันทรานส์ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต หรือเรื่องความเค็มที่ทำให้เกิดโรคไต ที่ต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ในการรักษาแต่ละปี
กรณีนี้จะจัดเก็บกับสินค้าที่มีการบรรจุหีบห่อ และระบุปริมาณโซเดียมที่ชัดเจน ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวต่างๆ แต่ไม่รวมอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง เพราะจะไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ
โดยให้ผู้บริโภค สังเกตที่ฉลากโภชนาการบนซองผลิตภัณฑ์สินค้า จะมีรายละเอียดชัดเจนพวกนี้ ส่วนประกอบทางโภชนาการ ซึ่งจริงๆไม่ควรมีในอาหาร ซึ่งงานวิจัยทางด้านสาธารณสุข มีงานวิจัยทางด้านสุขภาพ ดังนั้นถ้ามีปริมาณเยอะยิ่งต้องเก็บเยอะขึ้นเพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นอกบ้าน เช่น อาหารตามสั่ง พวกข้าวผัดกะเพราเป็นคนละเรื่อง เราไม่เก็บข้าวผัดกะเพรา นาเกลือ ปลาเค็ม ไข่เค็ม น้ำปลา อาหารหมักดองไม่เกี่ยวกับการเก็บภาษีเค็ม
คาดว่าจะได้ผลการศึกษาภายในไตรมาสแรกของปี 2562 หรือภายในสิ้นปีนี้ และจะเสนอเป็นแพ็คเกจไปให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังพิจารณาก่อนว่า เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วย ก็ค่อยนำเสนอรัฐบาลต่อไป
ทั้งหมดนี้ทางกรมสรรพสามิตต้องการปรับตัวเอง จากที่ถูกมองว่าเก็บแต่ภาษีบาป ไปสู่การส่งเสริมคุณภาพชีวิต ให้คนไทยมากขึ้น ไม่ใช่รัฐบาลถังแตก
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ