คำสั่ง ป.ป.ช.พ่นพิษ บอร์ด สมศ.ลาออกยกชุด รศ.ดร.ณมน ชี้เหตุเพราะการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน อาจทำให้มิจฉาชีพเข้ามาทำร้าย หรือหาประโยชน์ เป็นอันตรายต่อตัวเองและครอบครัว ยันไม่ได้กลัวการตรวจสอบแต่ไม่อยากวุ่นวาย หากหลงลืมหรือชี้แจงผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ มีความผิดทางอาญาได้ ส่วนที่ไม่รอมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก่อน เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่ได้แก้ปัญหาให้กลุ่มองค์กรมหาชน เผยยังมีองค์กรอีกหลายแห่งเตรียมลาออกเช่นกัน
ภายหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกประกาศเรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ส่งผลให้บอร์ดคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.ลาออกแล้ว
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศ.ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ประธานคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ได้รายงานว่า รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ ผอ.สมศ.ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ โดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผลในการลาออกคาดว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว และคิดว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของ สมศ.รวมถึงการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ เพราะมีการแต่งตั้งรักษาการ ผอ.สมศ.ไปแล้ว เมื่อได้บอร์ด สมศ.ชุดใหม่ จึงจะคัดเลือก ผอ.สมศ.ต่อไป ขอให้ใจเย็น และเชื่อว่างานด้านประเมินคุณภาพการศึกษาจะเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่มีอุปสรรค ทั้งนี้ ทราบมาว่าบอร์ด สมศ.ชุดที่รักษาการอยู่ในปัจจุบันได้ลาออกยกชุด น่าจะเป็นผลจากประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กําหนดตําแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร แต่คงต้องเร่งสรรหาบอร์ด สมศ.ชุดใหม่โดยเร็ว
ด้าน รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ สมศ.แล้ว เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำหนดให้เป็นตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ส่วนคณะกรรมการ สมศ. คนอื่นๆ รวมถึง ศ.ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ประธานคณะกรรมการ สมศ.ก็ยื่นหนังสือลาออกเช่นกัน เหตุผลที่ลาออกเพราะทุกคนเห็นว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้วต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ อาจทำให้มิจฉาชีพ หรือผู้ไม่หวังดีมีช่องทางเข้ามาทำร้ายหรือหาประโยชน์เป็นอันตรายต่อตนเองได้ และเท่าที่ดู ป.ป.ช.ไม่ได้มีระบบป้องกันข้อมูลจากมิจฉาชีพ การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเอง ขอยืนยันว่าการตัดสินใจเช่นนี้ไม่ได้กลัวการตรวจสอบ แต่ไม่อยากวุ่นวาย หากหลงลืมผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ ก็อาจมีความผิดทางอาญาได้ อีกทั้งคนที่เข้ามาทำงานส่วนใหญ่ เข้ามาช่วยดูระบบการศึกษา ไม่ได้มีเรื่องทุจริตและการลาออกยกชุดของบอร์ด สมศ. ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงาน เพราะบอร์ด สมศ.หมดวาระไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.
ที่ผ่านมา ขณะนี้ทำหน้าที่เป็นรักษาการ โดยตั้งนางขนิษฐา จรูญชนม์ รอง ผอ.สมศ. เป็นรักษาการ ผอ.สมศ.และในเดือน ธ.ค.นี้ จะได้บอร์ดชุดใหม่แล้วผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า ผอ.สมศ.ไม่ผ่านการประเมินผลงาน จึงต้องลาออกจากตำแหน่งนั้น ผอ.สมศ.กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะผลการประเมินการทำงานของตนนั้นอยู่ในระดับที่สูงกว่า เป้าหมายมาก ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกโดยไม่รอมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในวันที่ 27 พ.ย.นั้น เนื่องจาก ป.ป.ช.ไม่ได้พิจารณาแก้ปัญหาให้กลุ่มองค์การมหาชน แต่หารือแก้ปัญหาให้กับสภามหาวิทยาลัย และเท่าที่ทราบคณะกรรมการที่เป็นองค์การมหาชนหลายแห่งก็เตรียมยื่นหนังสือลาออกเช่นกัน
สำหรับคณะกรรมการบริหาร สมศ.ชุดที่ลาออก ประกอบด้วย ศ.ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ประธานกรรมการ โดยตำแหน่ง ได้แก่ นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ประธานกรรมการการอาชีวศึกษา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นางเพ็ชรากรณ์ วัชรพล สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายเลอศักดิ์ จุลเทศ นางวัลลิยา ปังศรีวงศ์ นายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง และ รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ กรรมการและเลขานุการ และ ผอ.สมศ.
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ