รมว.คมนาคม ออกมาตรการเร่งด่วนแก้ฝุ่นพิษ สั่งปิดไซต์รถไฟฟ้า7 วัน เพิ่มเครื่องฉีดละอองน้ำ ตรวจควันดำ สั่ง ขสมก.เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกคัน มอบกรมขนส่งฯ ส่งทีมตรวจรถควันดำ
วันที่ 17 ม.ค. 2562 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุมหน่วยงานภายในกระทรวงเพื่อวางมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลนั้น พร้อมออกมาตรการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน โดยให้ขนส่งสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตรวจสภาพรถประจำทางทุกคัน ให้ที่ใช้น้ำมันดีเซลทั้งหมด 2,075 คัน โดยได้ประสานงานกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดทีมตรวจสอบรถจำนวน 8 ทีม ดำเนินการตรวจสอบรถของ ขสมก.ทั้งหมดภายใน 2 วันนี้ หากพบว่ารถใดมีควันดำ แม้จะไม่เกินค่ามาตรฐานก็จะต้องหยุดวิ่งทันที พร้อมจัดการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถทุกคันให้เสร็จภายใน 2 วันนี้ โดยไม่ต้องรอการตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังให้ปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมันจากเดิมเป็นน้ำมันดีเซลที่มีส่วนทำให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 ถึง 60% ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลชนิด B20 แทน โดย ขสมก.รายงานว่าได้ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลชนิด B20 แล้ว 815 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่อีก 1,260 คัน จะทยอยเปลี่ยนทั้งหมดภายในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ที่ต้องใช้เวลาก็เพราะรถของ ขสมก.มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ เช่น ฮีโน่ เดวู มิตซูบิชิ อีซูซุ เป็นต้น จึงต้องมีการทดสอบการใช้น้ำมันกับรถแต่ละรุ่นก่อน
ด้านกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ร่วมปฏิบัติการตรวจจับรถควันดำ จากเดิมมี 12 จุดทั่วกรุงเทพ จะเพิ่มเป็น 20 จุด และจัดทีมตรวจ 8 ทีม ไปตรวจสภาพรถโดยสารประเภทต่างๆ ทั้งรถตู้ ขสมก., รถร่วม ขสมก., รถตู้ บขส., รถโดยสาร บขส. และรวมถึงรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถหมวด 30) ด้วย พร้อมกำชับให้ บขส.เพิ่มหน่วยงานตรวจสอบสภาพรถในพื้นที่ปลายทาง เพื่อแบ่งเบาภาระหน่วยงานที่ตรวจสภาพในกรุงเทพฯด้วย พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนที่พบเห็นรถโดยสารสาธารณะปล่องควันดำ สามารถแจ้งได้ที่ Call Center กรมการขนส่งทางบก 1584 เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 3 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี, โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี ส่งผลกระทบกับถนนสายหลักจำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่ แจ้งวัฒนะ ศรีนครินทร์ ลาดพร้าว รามคำแหง และรามอินทรา ที่ประชุมมีมติให้ รฟม. ประสานงานไปยังผู้รับเหมาให้งดกิจกรรมก่อสร้างที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองในช่วงระหว่าง 16-22 ม.ค.นี้ไปก่อน พร้อมขอคืนพื้นผิวจราจรให้มากที่สุด เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด และจะต้องกวาดล้างทำความสะอาดพื้นผิวถนนที่ใช้ก่อสร้างให้สะอาด ส่วนรถบรรทุกที่เข้าออกพื้นที่ต้องมีการล้างล้อทำความสะอาดทุกครั้ง ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต แม้ว่าจะอยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้าง แต่งานโยธาที่มีผลกระทบทำให้เกิดฝุ่นละอองได้ก่อสร้างแล้วเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว งานของโครงการส่วนใหญ่อยู่ในช่วงการวางโครงสร้างต่างๆ และงานระบบ ซึ่งไม่มีผลกระทบทำให้เกิดฝุ่นละอองแต่อย่างใด
ขณะที่ปัญหาฝุ่นละอองหนาแน่นจนเกินมาตรฐานบริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน เพราะมีรถบรรทุกขนส่งสินค้าใช้เป็นเส้นทางหลักนั้น ที่ประชุมกำชับให้การทางพิเศาแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินการนำเครื่องฉีดพ่นฝอยละอองน้ำ (high Pressure Water) ไปปล่อยบริเวณนี้ทั้งขาเข้าและขาออก เพราะเป็นจุดตัดระหว่างถนนพระราม 2 กับกาญจนาภิเษก และให้จัดการจราจรบริเวณหน้าด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง เพื่อให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น คาดว่าใน 1-2 วันนี้จะเริ่มดำเนินการได้ โดยประสานกับกรมทางหลวง (ทล.) ที่ดูแลมอเตอร์เวย์ให้ความร่วมมือด้วย ส่วนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในต่างจังหวัด ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งคืนพื้นผิวจราจรให้เร็วที่สุด และเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม จะต้องมีการรดน้ำในเขตก่อสร้าง เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองกระจาย
สำหรับมาตรการในระยะปานกลาง (2562-2563) ในส่วนของ ขสมก.กำลังอยู่ระหว่างจัดซื้อรถรุ่นใหม่จำนวน 2,188 คัน โดยจะเป็นรถ NGV, ไฮบริด และ EV ขั้นตอนอยู่ระหว่างการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป
ข่าวจาก : workpointnews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ