เมื่อเวลา 09.30 น วันที่ 3 มค 62 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายอนุชา มาทราย ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าลาหู่ และเป็นผู้จัดการอาสาโดยไม่มีค่าตอบแทน ที่มาช่วยดูแลเด็ก ๆ น้องชาวเขาที่ยากจนและต้องมาอยู่รวมกันที่บ้านพัก ที่ตนดูแลอยู่ เพื่อเรียนหนังสือ เนื่องจากระยะทางจากบ้านมาโรงเรียนไกลลำบาก ต้องมาอยู่รวมกันที่บ้านพัก ณ สถานที่พักของเด็กๆแห่งนี้เพื่อการเดินทางไปโรงเรียนจะได้ง่ายขึ้น ตนได้เรียกบ้านแห่งนี้ว่า บ้านพักเด็กนักเรียนแสนป๊อก ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านตีนธาตุ ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ มีจำนวนเด็กนักเรียนที่มาพักอยู่ที่บ้านแห่งนี้ จำนวน 42 คน ทุกคนล้วนแต่เป็นเด็ก ๆ จากพื้นที่สูง มาพักอาศัยรวมกันที่บ้านแห่งนี้เพื่อใกล้กับโรงเรียนและไปเรียนหนังสือได้สะดวกขึ้น
เด็กนักเรียนส่วนมากเป็นนักเรียนประถม บ้านของแต่ละคนนั้นอยู่บนดอย การเดินทางไปมาระหว่างโรงเรียนกับบ้านลำบากมาก ทางตนจึงได้จัดการบ้านพักให้เด็กนักเรียนมาพักอาศัยรวมกันที่บ้านพักแห่งนี้ นักเรียนแต่ละคนฐานะทางบ้านยากจน ครอบครัวทำไร่ รับจ้าง เป็นชาวเขา เมื่อกลุ่มนักเรียนมาอยู่รวมกัน ตนก็จะดูแลโดยไม่มีค่าจ้างใดๆทั้งสิ้น อยากให้เด็กได้มีการศึกษา หากไม่ทำแบบนี้การเดินทางมาโรงเรียนลำบาก เด็ก ๆ ก็จะท้อแท้และไม่อยากเรียนหนังสือ จึงได้ทำบ้านพักและให้เด็กมาอยู่รวมกัน ส่วนเงินในการมาดูแลเด็ก ๆ และบ้านพักนั้นก็ได้เงินบริจาคจากการขอเงินบริจาคและเงินจุนเจือจากครอบครัวของเด็ก ๆบ้างบางส่วน จากผู้ปครองของเด็กบ้างแล้วแต่ นอกจากเด็กนักเรียนจำนวน 42 คนนี้แล้ว ยังมีเด็กจากพื้นที่ใกล้เคียงอีก 63 คน รวมทั้งสิ้นที่พวกเด็กพวกนี้รอโอกาสทั้งสิ้น 105 คน
ในช่วงฤดูหนาวนั้น ตนก็จะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้เล่นได้ทำกิจกรรม โดยจะให้เด็กมาออกกำลังกายกันเพื่อคลายหนาว ก็จะหาอุปกรณ์กีฬาเท่าที่หาได้ ก็จะมีฟุตบอลจำนวน 2 ลูกที่เก่าแล้วเล่นมาหลายปี ก็ให้เด้กมาเตะเล่น เล่นลิงชิงบอลบ้าง เดาะบอล ส่งบอลกัน เท่าที่สอนได้เด็ก ๆ พวกนี้ก็อยากเล่นฟุตบอลกันเป็นส่วนใหญ่ ตอนเที่ยงวัน และเย็นก็จะมาเล่นบอลกัน บอลก็เก่าไปตามกาลเวลา อุปกรณ์เติมลมสูบลมก็ไม่มี จะเติมลมทีก็ต้องเอาลูกบอลไปหาชาวบ้านที่เขามีที่สูบลมที่ไกลเติมลมแล้วเอามาเล่น บางครั้งก็ต้องเล่นแบบแฟบ ๆ บางครั้งเด็ก ๆ ก็ช่วยกันเอาปากเป่าลม แต่ก็ไม่เป็นผลก็เล่นกันแบบแฟบ ๆ ไป เห็นแล้วหดหู่ แต่ก็ต้องเล่นเพื่อเป็นการคลายความหนาว พวกเขาเป็นเด็กที่ด้อยโอกาส จริง ๆ และจากการที่เด็กพวกนี้เล่นบอลกันประจำลูกบอลเก่า ๆ แฟบ ๆ แต่ดูทักษะเด็ก ๆ พวกนี้แล้วพอจะมีแวว หากมีการสอนและวิธีการสอนการเล่นบอลที่ถูกต้อง น่าเชื่อว่าเด็กพวกนี้ไปไกลแน่
“ทุกคนเห็นข่าว 13 หมูป่า แล้วพวกเขาอยากเป็นทีมฟุตบอลอย่างทีม 13 หมูป่าที่ติดถ้ำและได้เล่นบอลมีโอกาส ที่ดี ก็ขอวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเด็ก ๆ พวกนี้ เพื่ออนาคตเขาอาจจะสร้างชื่อเสียงให่้กับประเทศชาติของเราได้ไม่มากก็น้อย” ตนเชื่ออย่างนั้น
อากาศหนาวที ก็ต้องหากิจกรรมให้กับเด็ก ๆ ได้เล่นเพื่อคลายความหนาว บางครั้งก็ใช้ลูกบอล 1 ลูกเล่นกันเป็นทีม ข้างละ 20 คนก็มี จะได้เล่นกันอย่างทั่วถึง เด็กก็มีความสุข ได้วิ่งไปวิ่งมา บางคนก็ไม่ได้เตะได้สัมผัสลูกฟุตบอลเลย แต่ก็ยังถือว่าได้วิ่งไปมา เผื่อลูกบอลจะหลุดมาหาเขาบ้าง ได้เตะ 1 ครั้ง ก็มีความสุขแล้ว บอลหลุดมาถึงตัวได้เตะ 1 ครั้ง ถือว่าดวงดีที่สุดในวันนั้นของเขา เด็กนักเรียนเขาบอกอย่างนั้น “ช่วยเด็ก ๆ หน่อยเถอะครับ” นายอนุชา มาทราย กล่าว
ข่าวจาก : เชียงใหม่นิวส์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ