ครม.เคาะแล้ว!! เพิ่มงบบัตรทองปี63 เติมเต็มสิทธิประโยชน์ให้คนไทยมากขึ้น





 

14 ก.พ.62 เว็บไซต์ รัฐบาลไทย รายงานว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2563 จำนวน 1.91 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 2562 จำนวน 6,500 ล้านบาท ประกอบด้วย

• งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว สำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จำนวน 48.26 ล้านคน คิดเป็นอัตราเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาทต่อผู้มีสิทธิ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 173 บาทต่อผู้มีสิทธิ

• ค่าบริการสาธารณสุขผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ 

• ค่าบริการสาธารณสุขผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 

• ค่าบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง และค่าบริการผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน 

• ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่ชายแดนภาคใต้

• ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในชุมชน 

• ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมบริการระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว

• ค่าชดเชยวัคซีนป้องกันหัด คางทูม และหัดเยอรมัน 

งบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนในปี 2563 นี้ จะนำไปสู่การพัฒนาระบบการบริการสาธารณสุข เพิ่มการเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นให้กับประชาชน โดยมีสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มเติมขึ้น ได้แก่ 

– การตรวจคัดกรองยีน HLA-B*1520 เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผื่นแพ้ยารุนแรงจากการใช้ยา Carbamazepine โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง (โรคลมชัก)

– ปรับการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ในประชากร อายุ 50 – 70 ปี ให้เกิดความสะดวกมากขึ้น

– เพิ่มบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับอีก 12 รายการ รวมเป็น 24 รายการ

– เพิ่มการผ่าตัดผ่านกล้องและอุปกรณ์ทันสมัยเพื่อให้กลับบ้านได้เร็วขึ้น

– การเพิ่มยารักษาโรคอัลไซเมอร์ มะเร็งไทรอยด์ โรคที่เกิดจากการทำลายเส้นประสาท และเพิ่มสูตรยาต้านไวรัสเอดส์ที่ดื้อยา 

– เพิ่มเครื่องตรวจติดตามค่าน้ำตาลในเลือดให้ผู้ป่วยเบาหวานเด็ก

– เพิ่มวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก และขยายสิทธิประโยชน์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในกลุ่มผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติ 

นอกจากนี้ ยังจัดให้มีบริการเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น อาทิ นำร่องบริการตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์ การล้างไตผ่านเครื่องอัตโนมัติในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง และการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้วยวิธี Pre-Exposure Prophylaxis (PrEP) ในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี

ทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับสวัสดิการด้านสาธารณสุขเป็นอย่างมาก เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี และได้รับการบริการที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

อ่านเพิ่มเติม : www.thaigov.go.th/news/contents/details/18785

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: