วันที่ 26 ก.พ. 62 ที่ สน.บางขุนเทียน ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัวและสอบปากคำผู้ต้องหาบุกทำร้ายครู นักเรียน และรปภ.โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ 24 คน โดยจำนวนนี้เป็นเยาวชนร่วมก่อเหตุ 4 คน โดยญาติผู้ต้องหาที่มาปักหลักรอ ยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนใหญ่ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า
โดยนางสาวปิ่น (นามสมมติ) ภรรยาของหนึ่งในผู้ต้องหา ยืนยันว่าสามีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยสามีของตนเองเข้าไปหลังจากที่มีภาพคลิปในกล้องวงจรปิดที่มีกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปก่อนหน้า หลังจากที่เข้าไปในโรงเรียนก็ได้ขึ้นไปที่อาคารเรียนโดยทันที แล้วเข้าไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่โดนกระทำอนาจาร และเป็นคนพาลงมาจากห้องเรียน พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้มีการกระทำกับผู้หญิง อีกทั้งในวันที่เข้าไปช่วยระงับเหตุ สามีของตนเองก็ไม่ได้เมา เพราะถือว่าไปร่วมงานบุญจึงไม่ดื่ม ยอมรับว่าได้มีการสวมเสื้อที่เจ้าภาพแจกให้จริง แต่การเข้าไปช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ได้มีหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะบริเวณอาคารไม่มีกล้องวงจรปิด
ตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากถูกจับขังในเรือนจำ ครอบครัวก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว ประกอบกับตนเองก็ตั้งครรภ์ 7 เดือน กังวลว่าจะคลอดออกมาโดยพ่อยังติดคุกอยู่ ส่วนตัวมองว่าตำรวจตั้งข้อหาแรงเกินไป เพราะกลุ่มที่ร่วมก่อเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดทั้งหมด บางส่วนเข้าไปห้ามเหตุการณ์ บางส่วนยอมรับว่าเข้าไปก่อเหตุ ดังนั้นตัวเองก็ยังอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแยกคดีเป็นรายบุคคล ตามหลักฐานที่ปรากฏ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองในฐานะครอบครัวของผู้ต้องหาเพียงหนึ่งคน ขอไม่กล่าวคำว่าขอโทษ หรือออกมาแสดงความเสียใจ เพราะเหตุการณ์เกิดไปแล้ว ถ้าตนเองเป็นเพียงแค่หนึ่งคนที่ออกมาพูด แต่ยังมีอีกหลายคนที่ก่อเหตุ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้นำผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน 4 คน ออกจากห้องสอบสวน เดินทางไปฝากขังที่ศาลเยาวชน จากนั้นเวลา 14.30 น. ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 20 คน ส่งตัวฝากขังที่ศาลแขวงธนบุรี โดยระหว่างที่ถูกควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้ต้องหาได้พูดว่า “ขอโทษ และเสียใจ” บางส่วนพูดตลอดทางเดินว่า “ผมไม่ได้ทำ” จากนั้นได้มีผู้ต้องหาคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสุดท้ายหยุดให้สัมภาษณ์ก่อนเดินขึ้นรถ “ผมไม่ได้ทำครับ แค่เข้าไปในโรงเรียน”
ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งทั้งหมด 6 ข้อกล่าวหา แบ่งเป็นความผิดแตกต่างกัน อาทิ ร่วมกันบุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บและอันตราย จำคุกไม่เกิน 2 ปี, ขืนใจผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป จำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ดื่มแอลกอฮอล์ในวัด จำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ในการส่งตัวฝากขังต่อศาล ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เพราะหวั่นจะข่มขู่พยานและก่อเหตุซ้ำ
ด้านนายบัณฑิต โชคเด่นดวงดี เพื่อนสนิทนายวัลลภ นุชแฟง หรือ เอกไฝ เปิดเผยว่า กรณีที่นายเอกไฝถูกแจ้งข้อหาอนาจารเพิ่มนั้น ตนมีโอกาสได้คุยกับเจ้าตัว ซึ่งเขายืนยันทั้งน้ำตาคลอว่า “กูไม่ได้ทำ” เขาบอกตนว่า เขาเป็นเป็นคนผลักนักเรียนหญิงที่ถูกลวนลามออกมา จังหวะนั้นเป็นช่วงชุลมุน จึงทำให้น้องอาจจะจำหน้าตัวเองได้ แล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคนก่อเหตุ ส่วนคนอื่นที่เหลือยังไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนลวนลามนักเรียนหญิง ซึ่งส่วนตัวในฐานะที่สนิทกับเอกไฝ ยืนยันว่าเขาเป็นคนให้โอกาสเด็ก ๆ ใจดี รักเพื่อนฝูง จึงเชื่อว่าเขาไม่ได้ลวนลามนักเรียนหญิงแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผิดถูกก็ขอให้ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย
นอกจากนี้ นายบัณฑิตให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิด พร้อมยกมือไหว้ขอโทษแทนกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยกล่าวว่าพวกเขาได้รับในสิ่งที่ก่อไว้แล้ว และขอโอกาสให้เพื่อน ๆ เพราะทุกคนรู้สึกสำนึกกับสิ่งที่ทำลงไป
นางสาวหมวย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ยังตกใจหวาดกลัวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทุกครั้งที่คิดถึงภาพก็จะมีวิตกกังวล หลังจากทราบว่าตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง ส่วนตัวก็รู้สึกโอเคที่กลุ่มคนก่อเหตุได้รับกรรมตามที่ก่อเอาไว้ และหากได้ประกันตัว ตนเองก็เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะไม่ก่อเหตุอีก และจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ เนื่องจากมีบทเรียนแล้ว
ส่วนเรื่องการสอบ ทราบว่าจะมีการเปิดสอบใหม่ในวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งตนเองก็ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว เนื่องจากในวันดังกล่าวทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร กลัวว่าคะแนนจะไม่ดี และใช้ไม่ได้ จึงได้ขอสอบใหม่ โดยการลงทะเบียนสอบ มีเพียงแค่กลุ่มนักเรียนบางคนเท่านั้นที่มาลงทะเบียน แต่มีบางคนก็พอใจในการทำข้อสอบในวันดังกล่าว จึงไม่มีการลงทะเบียน
ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ