จากกรณีกลุ่มผู้ต้องหา 24 คน บุกเข้าไปในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ซึ่งจัดเป็นสนามสอบ GAT/PAT เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 62 โดยกลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจที่โรงเรียนขอความร่วมมือ ช่วยลดเสียงเครื่องดนตรีที่กำลังเล่นอยู่ในงานบวชของพระใหม่ โดยบางส่วนได้เข้าไปทำร้ายร่างกายครู พนักงานรักษาความปลอดภัย และข่มขู่นักเรียนภายในโรงเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกลุ่มผู้ต้องหาไปฝากขังแล้วเมื่อวานนี้ (26 ก.พ. 62) โดยมีผู้ต้องหา 2 คน คือนายปอนด์ และนายเต๋า ปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วยนั้น
วันที่ 27 ก.พ. 62 นางต้อย (นามสมมติ) ยายของนายศรายุทธ นุชแฟง หรือ เต๋า ผู้ต้องหา ลูกพี่ลูกน้องกับเอกไฝ เปิดเผยว่า เต๋าเป็นคนดี ไม่ใช่คนที่จะไปทำร้ายใคร ตนคิดว่าคนก่อเหตุน่าจะมี 4-5 คน แต่ที่เข้าไปเกือบ 30 คน ส่วนใหญ่ก็เข้าไปห้ามมากกว่า ตนเองในฐานะญาติ ก็อยากจะขอความเมตตาจากสังคม อย่าโทษเอาความผิดกับเขา จนไม่สามารถไปทำมาหากินได้เลย อย่างเต๋ากับน้องชายเขาที่ชื่อ เต้ย เป็นเสาหลักของครอบครัว ขยันทำมาหากิน เขาต้องเลี้ยงแม่ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ตนคิดว่าการตั้งหลายข้อหา หนักเกินไปสำหรับเด็ก
นางต้อย กล่าวต่อว่า นายเต๋าถูกบริษัทปลดจากงานหรือไม่นั้น ต้องรอความชัดเจนก่อน และตอนที่ตนไปเยี่ยมก็เห็นสีหน้าของหลานดูไม่ดี ตนก็เจ็บปวด ทราบดีว่าหลานตนผิด แต่อยากให้สังคมสงสารคนที่อยู่เบื้องหลังบ้าง ไม่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนเรื่องเงินประกัน จะมีหรือไม่มี ก็ยังไม่รู้ และบาางคนก็ไม่ผิด แค่เข้าไปห้าม พระใหม่ตอนนี้ต้องร้อนผ้าเหลือง แทบจะอยู่วัดไม่ไดั อยากให้สังคมสงสารพวกเขาบ้าง อย่าโจมตีเขา คนเราผิดพลาดกันได้
ขณะที่ นางสาวแจน (นามสมมติ) เพื่อนบ้านายดลราม เก่งวิชา ผู้ต้องหา บอกว่า ตนคิดว่าเขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยก้าวร้าว หรือไปหาเรื่องใครก่อน เมื่อวานตนได้มีโอกาสคุยกับ นางสาวโบว์ (นามสมมติ) แฟนของนายดลราม ซึ่งเขาก็ยืนยันกับกลุ่มเพื่อนบ้านว่านายดลรามไม่ได้เข้าไปมีเรื่อง เพียงแต่เข้าไปห้าม นางสาวโบว์ก็มีคลิปที่เป็นหลักฐานด้วยว่านายดลรามยืนนิ่ง ไม่ได้ทำร้ายใคร
ส่วนเรื่องคดีความ นางสาวโบว์บอกตนว่า จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด และตนมองว่าควรจะมีการแยกแยะความผิด ซึ่งหากใครผิดจริงก็ควรโดนข้อหาหนัก ส่วนเรื่องที่ทางโรงเรียนมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตนมองว่าค่าชดใช้มีมูลค่าสูง หากให้พูดตามตรง นายดลรามก็คงจ่ายไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับทางโรงเรียนอย่างมาก โดยห้องเรียนเกิดความเสีย ห้องผู้อำนวยการมีการถูกพัง ทำลายโทรทัศน์ บริเวณหน้าห้องมีชุดบ่อน้ำพุเสียหาย รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอน
นอกจากนี้ การจัดการสอบที่จะมีขึ้นใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 5 มี.ค. 62 มีมูลค่าที่ต้องดำเนินการ รวมถึงเอกสาร ที่มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 700,000 บาท ซึ่งหากมีการฟ้องร้อง กลุ่มผู้ต้องหาอาจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว และตอนนี้อยู่ระหว่างการรออัยการสั่งฟ้องในคดี
ข่าวจาก : amarintv
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ