ทษช.ลุ้นระทึก นัดรวมพลฟังศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรค “ศรีวราห์” จัดกำลังคุมเข้มรอบรัศมี 500 ม. ติดกล้องวงจรปิด 70 ตัวคลุมพื้นที่ บช.น.วางกำลังกว่า 1,500 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์ไว้รับสถานการณ์ฉุกเฉิน พปชร.เก้อ “บิ๊กตู่” ไม่ขึ้นเวทีีปราศรัยแล้ว เผยปิดห้องถกเครียด “3 ป-1 ส” “วิษณุ” ชี้ช่องเดินหาเสียงช่วยเนียนๆ “อุตตม” ยันขวัญกำลังใจยังดี “ชัชชาติ” ท้า “ลุงตู่” แน่จริงมาลงหาเสียงเต็มตัว ทีมพะเยาโวยแหลกทุจริตเลือกตั้งอื้อ แต่เจ้าหน้าที่ทำนิ่ง จี้ กกต.เร่งสอบสวนเอาผิด “เสรีพิศุทธ์” ไม่กังวล ผบ.ทบ.ฟ้อง ฮึ่มไล่เช็กบิลหลังเลือกตั้งจบ ผบ.มทบ.12 นำคู่กรณีแจ้งความเพิ่ม “บิ๊กแดง” เรียก 700 ผบ.หน่วยตบเท้าโชว์พลัง ด้าน อนค.-“ธนาธร” ยื่นฟ้อง “ม.จ.จุลเจิม” ฐานใส่ความเท็จ สำนักข่าวทีนิวส์โดนด้วย เชื่อหวังตัดแต้มช่วงโค้งท้าย อัยการส่งฟ้อง 9 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง
ทุกฝ่ายเกาะติดคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยวันที่ 7 มี.ค. ว่าจะส่งผลต่อทิศทางการเมืองในอนาคตอย่างไร เพราะกำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค.นี้
ทษช.นัดฟังตัดสินยุบพรรค
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ กรรมการบริหารรวมถึงแกนนำพรรคส่วนใหญ่จะไปร่วมรับฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยนัดหมายรวมตัวกันที่พรรคก่อนเดินทางไปพร้อมกัน โดยตัวแทนของพรรคที่จะเข้าร่วมรับฟังคำตัดสินจำนวน 6 คน ประกอบด้วย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหาร นายสุรชัย ชินชัย และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของพรรค โดยมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรค เดินทางไปร่วมกับคณะกรรมการบริหารด้วย ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรครอลุ้นฟังคำวินิจฉัยที่ทำการพรรค
ย้ำอีกให้กองเชียร์ลุ้นที่บ้าน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ทวีตข้อความว่า พรุ่งนี้จะไปฟังคำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียง พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า พรุ่งนี้ 7 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ เวลา 15.00 น. กรรมการบริหารพรรค แกนนำบางส่วนและทีมกฎหมายจะไปฟังที่ศาล แจ้งให้หัวหน้าทีมรณรงค์ทั้ง 7 ชุด บอกผู้สมัครทุกเขตและทีมงานติดตามข่าวสารที่บ้านหรือศูนย์ประสานงาน ช่วงเวลาอ่านคำวินิจฉัยจะไม่มีกิจกรรมรณรงค์ใดๆ สมาชิกพรรคและผู้สนับสนุน ขอให้ติดตามข่าวที่บ้านเช่นเดียวกัน เพื่อ ความสะดวกเรียบร้อย และให้ความร่วมมือกับกระบวนการศาล
“ศรีวราห์” จัดวางกำลังเข้ม
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีแผนรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ศาลรัฐธรรมนูญตามปกติ รวมถึงคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาใช้พื้นที่ และในส่วนที่มีคำสั่งหรือมีประกาศของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลอย่างเต็มที่ ยังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าจะเกิดเหตุผิดปกติ ได้รับรายงานจากทางพื้นที่ยังไม่มีการขออนุญาตการชุมนุมบริเวณศาล ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มีการเตรียมกำลังไว้เต็มที่ในการดูแลความสงบสุข ความปลอดภัย และความสะดวกของประชาชน ได้เตรียมพร้อมในทุกด้าน ทั้งสุนัขตำรวจ หน่วยอีโอดี แพทย์ และหน่วยบินตำรวจ ระดมดูความ เรียบร้อย มีการดูแลศาลรัฐธรรมนูญในรอบรัศมีระยะ 500 เมตร เอาแบบว่าปืนเอ็ม 79 ยิงไม่ถึง
ติดกล้อง 70 ตัวครอบคลุมพื้นที่
พ.ต.ท.มานะ ปุยะกุล รอง ผกก.สส.บช.สทส. กล่าวว่า ตำรวจสื่อสารได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณลานด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ต่อเนื่องไปจนถึงอาคารของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามแนวถนนทางเข้าศูนย์ราชการ รวมทั้งหมด 70 ตัว สามารถเห็นครอบคลุมทุกพื้นที่ในบริเวณที่ บช.น.กำหนด และติดตั้งระบบวิทยุดิจิทัลให้กับหน่วยงานที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ติดตั้งระบบวิดีโอทางไกล เพื่อให้สามารถติดต่อกับ ศปก.ตร.ได้ตลอดเวลา
วางกำลังกว่า 1 พันนายพร้อม ฮ.
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. กล่าวว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้บริเวณที่ทำการศาลเป็นเขตอำนาจศาล กำหนดให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเข้าไปฟังคำพิพากษาได้ฝ่ายละ 16 คน พร้อมทั้งจัดห้องให้สื่อมวลชนฟังคำวินิจฉัยผ่านการถ่ายทอดภาพทางโทรทัศน์ ทั้งนี้ ที่ทำการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้พื้นที่ร่วมกันกับศาลฎีกา กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด กำหนดพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับหน่วยงานอื่น แบ่งเป็นพื้นที่เขตชั้นใน เป็นพื้นที่ของศาล นำเครื่องวอล์กทรูตรวจบุคคลเข้า-ออกอย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือตรวจบัตรสื่อมวลชนที่จะเข้าพื้นที่ ส่วนประชาชนที่จะมาให้กำลังใจ จากการข่าวคาดว่าจะมาราว 200 คน ศาล อนุญาตให้อยู่บริเวณลานกลางศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 1 พื้นที่เขตชั้นกลาง นอกเขตอำนาจศาล จะใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ โดยจัดตั้งจุดสูงข่มวางกำลังบริเวณพื้นที่โดยรอบ ส่วนพื้นที่เขตชั้นนอก กำหนดตั้งจุดตรวจคอยดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 กองร้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและตำรวจนอกเครื่องแบบ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อีโอดี และ สุนัขตำรวจรวมแล้วประมาณ 1,000 นาย โดยจะตรวจ สอบพื้นที่อย่างละเอียด ป้องกันเหตุจากผู้ที่ไม่หวังดี หรือมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ พร้อมทั้งสั่งให้จัดเตรียมพร้อมเฮลิคอปเตอร์ ไว้รองรับหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงนำ
“บิ๊กตู่” ย้ำทุกหน่วยเดินตามแผน
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนเปิดประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 1/2562 ว่า การจัดทำงบ ประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ต้องบริหารจัดการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้อย่างเหมาะสม ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพการจัดหารายได้ของภาครัฐด้วย ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามแผนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามขั้นตอน อาจต้องใช้เวลาและทุกคนต้องช่วยกันอธิบายสังคมว่ารัฐบาลไม่สามารถทำทีเดียวได้ แต่ต้องทำต่อไป และจำเป็นต้องมีแผนแม่บท เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณในระบบการเงินการคลังของประเทศไม่เกิดความเสียหาย
อ่านเพิ่มเติม : https://www.thairath.co.th/content/1512855
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ