5 เหล่าทัพแถลงข่าวหลังเลือกตั้ง ชี้เลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางของรัฐบาลใหม่ แต่ย้ำภารกิจสำคัญเร่งด่วนเวลานี้คือ การทำให้คนดีปกครองบ้านเมือง พร้อมแจ้งกรณีถอดชื่อศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อย และเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว จาก ทักษิณ เพราะจาบจ้วง ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ
28 มี.ค. 2562 แนวหน้าออนไลน์ และคมชัดลึกออนไลน์ รายงานตรงกันว่า ที่กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าว
โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า จุดยืนต่อบทบาทและหน้าที่ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ ของทหารและตำรวจไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ส่วนบทบาทความเป็น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และความเป็นแม่น้ำ 5 สายจะมีโรดแมปตามระยะเวลา ก็ไม่มีเรื่องใดที่ต้องกังวลการบริหารงานของรัฐบาลในเวลาต่อไปเป็นไปตามตัวบทกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่กำหนด
เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้ง ผบ. เหล่าทัพวิเคราะห์อย่างไร พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องที่ได้ทำให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขา คสช. ได้คลายความกังวลเพราะทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ผลของการเลือกตั้งเท่าที่ได้ติดตามในฐานะประชาชน ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยปกติ
พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนการพยายามที่จะรวมเป็นรัฐบาลโดยคะแนนข้างไหนนั้น ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ส่วนทหาร ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบและป้องกันเอกราชอธิปไตยของประเทศชาติต่อไปตามปกติ ทั้งนี้ ทหาร ตำรวจ เป็นส่วนราชการเป็นกลไกทางราชการที่ต้องปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตาม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดที่จะมาทำหน้าที่ในการเป็นรัฐบาล ทหารและตำรวจต้องปฏิบัติตามนโยบาย และแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการไว้
เมื่อถามว่า ในฐานะที่กองทัพเป็นส่วนหนึ่งของคสช แต่ 7 พรรคการเมือง ลงสัตยาบันหยุดสืบทอดอำนาจ คสช.และปฏิรูปกองทัพ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า คสช.ต้องยุติไปตาม โรดแม๊พ อยู่แล้ว เมื่อเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลความเป็น คสช.ก็พ้นไปโดยธรรมชาติ ตนไม่เห็นว่า จะมีโอกาสที่จะเป็นการสืบทอดอำนาจตามวาทะที่ได้พูดในระยะนี้ ไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องน่ากังวล ในส่วนที่ถามเกี่ยวกับปรับปรุงพัฒนากองทัพ ถ้าคำสั่งแนวทางนโยบายแห่งรัฐเป็นเรื่องที่คิดใคร่ครวญอย่างเหมาะสมแล้วที่ทำให้ประเทศชาติ มีความมั่นคง เสถียรภาพ ไม่ถูกรุกรานจากประเทศภายนอก ทุกอย่างจะปรับได้ตามที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้กับกองทัพและตำรวจปฏิบัติ
เมื่อถามว่า จะสามารถทำตามพระบรมราโชวาท คือให้คนดีมาปกครองบ้านเมืองได้หรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เป็นความเร่งด่วนสุด ที่กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พยายามจะพูดในทุกครั้งและทุกโอกาส การดำเนินการทุกประการตามแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถือว่ามีความลึกซึ้งและเป็น ปรัชญา สูงสุด เราไม่สามารถทําให้ทุกคนเป็นคนดี แต่เราเลือกคนดีเข้ามาบริหารมีอำนาจได้ แล้วเราทุกคนในสังคมต่างๆ ทหารตำรวจพยายามยึดมั่นในแนวปฏิบัติอันนี้คือ พยายามให้ทุกคนก็ตามที่เป็นคนดีขึ้นมาเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชา
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหลังเลือกตั้งเรื่องการทุจริตหรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องให้เวลากับ กดต. เราต้องเชื่อมั่นกลไกของรัฐ แม้ว่าเราอาจมีความเห็นว่าการทำงานของ กกต. ไม่เรียบร้อยในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง อย่างไรต้องเชื่อใจว่า กกต. เขามีหลักในการปฏิบัติและพยายามที่จะทำออกมาให้ดีที่สุด เมื่อพบข้อบกพร่องก็ต้องแก้ไขและในข้อแก้ไขจะต้องใช้เวลาพอสมควร ถ้าเราให้โอกาส กกต. มากกว่าจู่โจมด้วยคำพูดจนเขาไม่สามารถตั้งตัวได้และทำลายความน่าเชื่อถือ ในบางเรื่องเป็นเรื่องจริงหสกเราก็เลือกไม่เชื่อไปแล้ว ก็ต้องให้ความเป็นธรรม กกต. ไปด้วย
เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกกองทัพมีจุดยืนอย่างไร พล.อ. พรพิพัฒน์กล่าวว่า กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ภายใต้รัฐบาลมาเป็น 100 ปี อยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยมาทุกแบบเพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา ว่ากองทัพจะปฏิบัติงานภายใต้รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีท่านใด
เมื่อถามว่า หากการเลือกตั้ง ไม่ได้ข้อสรุปที่ดีจะเกิดการรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า เราอย่าไปตั้งเป้าว่าจบไม่ดี คนไทยต้องคิดบวกเราอุตส่าห์เดินทางตามโรดแมปมาถึงขั้นนี้แล้ว จนมีการเลือกตั้งคะแนนก็ได้ผลการเลือกตั้ง ขอให้ กกต. ประกาศยืนยันผลเป็นทางการทุกอย่างก็จะมีการฟอร์มรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ซึ่งในที่สุดก็จะสามารถมีรัฐบาล ที่ได้เสียงข้างมากจนได้
นอกจากนี้ Wassana Nanuam รายงานด้วยว่า พล.อ.พรพิพัฒน์ ชี้แจงกรณี สั่งปลดชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ออกจากทำเนียบศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนเตรียมทหาร และเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว ว่า
“ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคน ก็รู้ดิว่าเหตุผลคืออะไร ได้เห็นทั้งในเว็บไซต์ ในโซเชียลต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ รบกวนจรรยาบรรณของทหาร และหลักนิยมทหาร ถ้ามีการจับจ้วง และไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ก็ถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจ…รางวัลเกียรติยศจักรดาวเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศ ดังนั้นผู้รับ จะต้องรักษาเกียรตินั้น ไว้ให้ได้ หากมีข้อมูลใดที่ผู้นั้น ไม่สามารถที่จะรักษาเกียรตินั้น ไว้ได้ เราก็ต้องเรียกคืน” พล.อ.พรพิพัฒน์
คณะกรรมการศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารถอด ทักษิณ ออกจากศิษย์เก่าดีเด่น พร้อมเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว
วานนี้(27 มี.ค.) สยามรัฐออนไลน์ รายงานว่า คณะกรรมการศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร มีมติถอดชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ออกจากศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนเตรียมทหาร พร้อมเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว เหตุเป็นนักโทษหนีคดีและถูกถอดยศตำรวจและถูกพิจารณาจำคุก 2 ปี
ทั้งนี้ ในการพิจารณาศิษย์เก่าดีเด่นเพื่อรับรางวัล กล่าวไว้ว่า ต้องเป็นผู้มีความประพฤติดีมีคุณธรรม ทั้งในหน้าที่การงานและความประพฤติส่วนตัว ตลอดจนต้องไม่มีประวัติเสื่อมเสียในทางเสียหายในสังคมทั้งเป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเสียสละอุทิศตน เพื่องานในหน้าที่ราชการหรืองานสังคมจนเป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป หากผู้ที่ได้รับรางวัลมีความประพฤติตนเสื่อมเสีย เสียหายต่อสังคม ต่อสถาบัน ด้วยการแสดงออก ถึงความจงรักภักดี และประเทศชาติ ทำให้ขัดต่อระเบียบฯขั้นต้น
ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร จึงได้พิจารณาขอถอนรางวัลจากสาเหตุดังนี้ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอเรื่องการถอดถอน พันตำรวจโททักษิณชินวัตร ออกจากยศตำรวจ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ 2547 และถูกถอดยศเมื่อ 5 ก.ย. 2558
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาเมื่อ 21 ต.ค. 2551 ว่า พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 โดยพิจารณาให้ลงโทษจำคุก 2 ปี จึงมีมติให้คืนรางวัล “ทักษิณ ชินวัตร” ด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ ในที่ประชุม
สำหรับ ทักษิณ เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 26 โดยสอบได้คะแนนเป็นที่ 1 ของรุ่น โดยปี 2534 นายทักษิณได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ด้านพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งได้รับเป็นคนแรก จากคณะกรรมการมูลนิธิโรงเรียนเตรียมทหาร และปี 2554 ทักษิณได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาวสาขาการบริหารจัดการ
ข่าวจาก : ประชาไท, Wassana Nanuam, แนวหน้าออนไลน์, คมชัดลึกออนไลน์, สยามรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ