การปูพรมขยายสาขาและเปิดขายตลอด 24 ชั่วโมงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ยักษ์สะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดพร้อมสร้างแรงกดดันให้คู่แข่ง เห็นได้จากในประเทศไทยซึ่งเซเว่นอีเลฟเว่นเดินหน้าผุดสาขาต่อเนื่องเป็นดอกเห็ดจนทะลุหมื่นสาขาไปแล้วและครองตำแหน่งประเทศที่มีสาขามากเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น
แต่ล่าสุด “เซเว่นแอนด์ไอ โฮลดิ้ง” (Seven & I Holdings) บริษัทแม่และผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในญี่ปุ่นกลับต้องปรับกลยุทธ์โดยเหยียบเบรกชะลอการขยายสาขาลง พร้อมทดลองลดเวลาเปิดทำการในบางสาขาจาก 24 ชั่วโมง เหลือเพียง 16 ชั่วโมง ด้วยการกลับไปใช้เวลาทำการดั้งเดิมซึ่งเป็นที่มาของชื่อ เซเว่นอีเลฟเว่น นั่นคือ เปิด 7 โมงเช้าและปิด 5 ทุ่ม เพื่อรับมือปัญหาขาดแคลนแรงงาน
สำนักข่าว “นิกเคอิ” รายงานว่า เซเว่นแอนด์ไอ โฮลดิ้ง ได้ลดเป้าการเติบโตของสาขาในปี 2562 นี้ลงถึง 80% ทำสถิติน้อยที่สุดในรอบ 40 ปี โดยจะเปิดสาขาใหม่ 900 สาขาและปิดสาขาเก่า 750 สาขา เท่ากับเพิ่มขึ้นเพียง 150 สาขาเท่านั้น หรือเติบโต 0.7% และคิดเป็น 1 ใน 4 ของการเติบโตปี 2561 ซึ่งมีสาขาเพิ่มขึ้น 616 สาขา
นอกจากนี้ช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เริ่มทดลองใช้เวลาทำการแบบเปิด 7 โมงเช้าและปิด 5 ทุ่ม ใน 10 สาขาที่บริษัทบริหารเอง เพราะเสียงร้องเรียนจากแฟรนไชซีซึ่งไม่สามารถหาพนักงานมาประจำร้านตลอด 24 ชั่วโมงเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังแฟรนไชซีรายหนึ่งในโอซากาต้องยอมละเมิดสัญญาลดเวลาทำการเหลือ 19 ชั่วโมง
โดยยักษ์ร้านสะดวกซื้อระบุว่า จะหันไปเน้นอัพเกรดศักยภาพการแข่งขันของสาขาที่มีอยู่ให้สูงขึ้นแทน “ริวอิจิ อิซากะ” ประธานบริษัท เซเว่นแอนด์ไอ โฮลดิ้ง และกรรมการผู้จัดการของเซเว่นอีเลฟเว่น อธิบายว่า ที่ผ่านมาบริษัททุ่มงบฯ 60% ไปกับการขยายสาขา แต่หลังจากนี้งบฯดังกล่าวจะนำมาใช้พัฒนาสาขาเดิมแทน ไม่ว่าจะเป็นขยายพื้นที่ขายอาหารแช่แข็งในกว่า 6,000 สาขา และการติดตั้งเคาน์เตอร์คิดเงินแบบบริการตนเอง รวมถึงเดินหน้าเจรจากับแฟรนไชซีเพื่อหาทางออกของปัญหาขาดแคลนแรงงาน
ทั้งนี้ การขาดแคลนแรงงานเป็นปัญหาเรื้อรังในธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารของญี่ปุ่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้จะมีความพยายามนำเข้าแรงงานต่างชาติ แต่ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะวงการร้านสะดวกซื้อซึ่งทุกรายเดินหน้าขยายสาขาตลอดหลายสิบปีจนการแข่งขันชิงพนักงานดุเดือดถึงขีดสุด ทำให้ทั้งลอว์สัน และแฟมิลี่มาร์ท ต่างเริ่มทดลองโมเดลลดเวลาทำการลงเช่นเดียวกัน ในขณะที่แมคโดนัลด์ลดจำนวนสาขาที่เปิด 24 ชั่วโมงลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 ส่วนเชนร้านอาหาร “รอยัล โฮส” ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ ต้องเลิกให้บริการแบบ 24 ชั่วโมงไปเมื่อปี 2560
หลังจากนี้ต้องจับตาดูว่าบรรดาธุรกิจในญี่ปุ่นจะหาทางรับมือกับปัญหานี้อย่างไร
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ, คอลัมน์ Market move
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ