ตำรวจแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหาหนัก เสี่ยเบนซ์ เมาขับชน รองผกก.-เมีย ดับสลด ลูกสาววัย 12 ปี เจ็บสาหัส วอนสังคมให้อภัย เผยเป็นบทเรียนสาหัสที่สุดในชีวิต ลั่น! ขอเลิกเหล้าตลอดชีวิต เตรียมเจอหน้าครอบครัวผู้เสียชีวิต
จากกรณี นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ก่อเหตุเมาแล้วขับ รถเบนซ์ อี250 สีบรอนซ์ ทะเบียน ษฮ789 กรุงเทพมหานคร ชนรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2กก3653 กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เสียชีวิตคาที่ ส่วน นางนุชนาถ งามสุวิชชากุล44 ปี ภรรยา และ ด.ญ.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ลูกสาว ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นางนุชนาถไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
โดยศาลให้ทางพนักงานสอบสวนทำสำนวนแจ้งข้อหา แก่นายสมชาย เพียง 3 ข้อหา คือ 1.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะมึนเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และ 3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เม.ย. พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผกก.สน.ศาลาแดง ได้ร่วมหารือกับ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม รองผกก. หัวหน้างานสอบสวน โดยในช่วงบ่ายวันนี้ นายสมชาย จะเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สน.ศาลาแดง เพื่อทำการสอบปากคำทำคดีใหม่ เนื่องจากศาลพิจารณาแล้ว ไม่สามารถรับฟ้องในคดีฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ต่อมาเวลา 12.40 น. นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านอ่ะไหล่ยนต์ พร้อม นายวีรวุฒิ บำรุงใจ ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กฤตินาท และ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมกับคดีที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า ได้เดินทางไปเยี่ยมด.ญ.พิชญาภา ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาตัวภายในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้น จึงทำให้ตนสบายใจอีกเปราะหนึ่ง ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่สาหัสที่สุดในชีวิต โดยตั้งใจว่ามีบทเรียนและต้องแก้ไข โดยคิดว่าจะเลิกดื่มไปตลอดชีวิต
“ขอโทษประชาชนกับสิ่งที่ผมได้กระทำผิดพลาดไป และหวังว่าจะได้รับการให้อภัยและอโหสิกรรม ยืนยันว่าจะดูแลเด็กทั้งสองคนอย่างดีที่สุด โดยได้รับปากกับทางญาติของผู้เสียหาย จนญาติพอใจ เด็กทั้งสองคน ทั้งคนที่ยังศึกษาต่อที่ต่างประเทศและที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจะส่งเสียให้ถึงที่สุดตามที่ปรารถนา รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง โดยจะทำหน้าที่เสมือนพ่อและแม่ให้กับน้องทั้งสองที่ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปพร้อมกันกับการกระทำของผมในครั้งนี้” นายสมชาย กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา นายสมชาย เพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงสาหัส โดยนายสมชายให้การรับสารภาพในทั้งสองข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ นายสมชายพร้อมด้วยทนายความจะเดินทางมาพบกับญาติของผู้เสียหายต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดยมี น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล หรือ น้องพลอย อายุ 16 ปี ลูกสาวคนโตที่อยู่ประเทศอเมริกา ที่จะเดินทางกลับมาในวันพรุ่งนี้และเดินทางมาที่สน.ศาลาแดง ในเวลา 11.00 น.
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ