เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เปิดเผยผลการหารือร่วมกับตัวแทนพรรคการเมือง หลังเข้าชมห้องประชุม ทีโอที อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัททีโอที จำกัด(มหาชน) ว่า เบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่า ห้องประชุม ทีโอที เหมาะสมที่สุด สำหรับใช้เป็นอาคารรัฐสภาชั่วคราว เลือกนายกรัฐมนตรี และพิจารณาเรื่องต่างๆ โดยจะเน้นการประชุมของ ส.ส. และการประชุมร่วมรัฐสภาเป็นหลัก ส่วน ส.ว. คาดว่าจะใช้เพียงบางครั้ง เท่านั้น เพราะเบื้องต้นได้รับการยืนยันจากผู้รับเหมาว่า สามารถใช้ห้องประชุม ส.ว. ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้ทันเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนประชุมกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ ยอมรับว่ายังไม่มีเพียงพอ อาจจะต้องใช้อาคารสุขประพฤติ ถ.ประชาชื่น และทยอยใช้อาคารรัฐสภาแห่งใหม่บางส่วนที่เสร็จสิ้น เพื่อลดภาระการเช่าพื้นที่ของ บริษัท ทีโอที ส่วนอัตราค่าเช่าพื้นที่ เบื้องต้นประมาณ 11 ล้านบาทต่อเดือนนั้น ตัวเลขยังไม่แน่นอน อยู่ระหว่าง ให้บริษัท ทีโอที ไปประเมินราคาเสนอมาอีกครั้ง
ส่วนการกำหนดระยะเวลาใช้งานเวลาการประชุม หรือมาตรการด้านจราจร เพื่อไม่ให้กระทบประชาชนนั้น นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองจะต้องไปตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำหนดกันเอง สนช.ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะเป็นเรื่องของสภาชุดใหม่ สนช.ทำได้เพียงหาสถานที่ และวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เท่านั้น ซึ่งพรรคการเมืองที่เข้าร่วมหารือในวันนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้ติดใจหรือคัดค้านอะไร แต่ให้ข้อเสนอกับทีโอทีไปปรับปรุงสถานที่ให้เหมาะสมมากขึ้นเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะเรื่องที่จอดรถ และไมโครโฟน ที่ใช้ในการประชุม ซึ่งพรรคการเมืองทราบดีว่ามีความจำเป็นต้องหาพื้นที่การประชุมชั่วคราว
นายสุรชัย กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในการเช่าห้องประชุมต่างๆ ภายในสำนักงานใหญ่ทีโอที เฉลี่ยเดือนละ 11,690,000 บาท ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีงบประมาณอยู่ไม่เพียงพอ สำหรับการเช่าตั้งแต่เดือนพ.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค. จึงเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีขอใช้งบกลาง จำนวน 60 ล้านบาท เพื่อใช้เช่าพื้นที่เป็นการชั่วคราวระหว่างรอให้การให้อาคารรัฐสภาใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ สำหรับพื้นที่ที่ต้องใช้ทั้งหมด จะประกอบไปด้วย ห้องประชุมใหญ่สำหรับใช้ประชุมรัฐสภา และประชุมส.ส. ห้องรับประทานอาหารของส.ส. ห้องประชุมกรรมาธิการ ห้องรับรองส.ส. ห้องสื่อมวลชน อาคารที่จอดรถ และห้องโถง
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ