เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาเมื่อครั้ง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปบุกจับกวาดล้างตลาดใหม่ดอนเมือง รื้อค้นสินค้ายี่ห้อหนึ่งที่ไม่ได้มาตรฐาน กระทั่ง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตผู้กำกับการสันติบาล 2 โผล่ขวางต่อว่า เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ตรวจค้น ในฐานะที่ตัวเขาเองเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังออกไปจากพื้นที่
ไม่ทราบแน่ชัดว่า ที่เหตุการณ์มันบานปลายถึงขั้นนำกำลังเข้าไปกวาดจับ ยึดของแม่ค้าในตลาดดอนเมือง สืบเนื่องมาจาก พ.ต.ท.สันธนะ เคยมีเหตุกระทบกระทั่งกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่สนามม้านางเลิ้งก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ก็ทำให้ พ.ต.ท.สันธนะ อ่วมหนักโดนจัดไปหลายข้อหา จนถึงวันนี้เหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้ล่วงเลยผ่านมานานข้ามปี ก็ดันมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แบบฉับพลันไม่ทันตั้งตัว เพราะอยู่ดีๆ ก็โดนย้ายไปเป็นข้าราชการพลเรือนแบบงงๆ ท่ามกลางข่าวลือสะพัดทั่วสารทิศ ผิดๆ ถูกๆ นั่นเพราะยังไม่มีใครออกมาชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงให้ทราบ
“เขาไม่สามารถใช้ชีวิตปกติแบบผมได้ วันที่ผมถูกจับกุมประกันตัวออกมา ผมยังสามารถทำอะไรได้เหมือนเดิม แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาอยู่ในสภาพที่หนักหนากว่าผมมาก จะให้ผมไปพูดถึงเรื่องเก่าๆ ที่โดนเขาไล่ต้อนบอกตรงๆ ว่าไม่ได้เก็บมาคิดแค้นใจโกรธเคืองอะไรเลย มันผ่านไปแล้ว วันนี้รู้สึกเห็นใจเขามากกว่า ถ้าเขาฟังอยู่ ผมขอให้กำลังใจเขานะ อยากให้เขาต่อสู้กับความรู้สึกตัวเอง ข้ามผ่านเวลานี้ไปให้ได้” พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ฝากความรู้สึกผ่านไปยังบิ๊กโจ๊ก
พ.ต.ท.สันธนะ บอกด้วยว่า ตัวเขาเองก็เคยตกอยู่ในห้วงความรู้สึกที่แย่ๆ แต่ไม่เคยคิดจะแคร์ใคร ยังใช้ชีวิตตามปกติ ใครจะมองจะว่าเราไม่ดีก็ช่างเขา เพราะความจริงเราเองรู้แก่ใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร จึงไม่มีความจำเป็นต้องสนใจคนอื่น
“ผมไม่คิดที่จะสนใจข่าวต่างๆ ที่พากันพาดพิงถึงผม ไม่โกรธไม่แค้นเลย เพราะเขียนไปเถอะ ตราบใดที่มันไม่ใช่เรื่องจริง จึงไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องเดือดร้อนไปแก้ข่าวหรือเต้นตาม ปล่อยไปตามปกติ เดี๋ยววันหนึ่งข่าวมันก็เงียบหายไป แต่คดีความที่โดนโจ๊กดำเนินคดียังคงต้องต่อสู้ต่อไปแต่ก็เชื่อว่าหลุดหมด เพราะผมไม่ผิดอะไรเลย ส่วนวันนั้นโจ๊กจะไปไล่จี้จับผมเพราะใคร หรือเพราะอะไร ผมไม่อยากพูดถึง รู้กันแค่ว่าเจ้าหน้าที่เตรียมวางแผนกันมาอย่างดีเพื่อจะเอาผมเข้าเรือนจำก็พอ”
พ.ต.ท.สันธนะ พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบิ๊กโจ๊กในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่หนักหนาสาหัส แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้ลึกว่ามันมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ และก็ไม่อยากรู้ เพราะเรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว ได้แต่เห็นใจเพราะเคยผ่านความรู้สึกแย่ๆ ในชีวิตมาก็ไม่น้อยเลย
“ผมเป็นคนมองอะไรหลายด้านนะ แต่โจ๊กน่าจะเป็นคนมองอะไรแค่ด้านเดียว ผมคิดว่าโจ๊กเขาเป็นตำรวจที่เก่งมากๆ คนหนึ่งเพราะทำงานกวาดล้างจับกุมในคดีอาชญากรรมหรือความเดือดร้อนของชาวบ้าน ถึงแม้จะมีเรื่องผลประโยชน์หรือความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาแฝงไว้อย่างตอนเขาเข้าจับกุมผม บอกเลยว่าเป็นเรื่องของการเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ช่างมัน วันนี้เขามีบทเรียนที่ต้องข้ามผ่าน เขาต้องออกจากตำรวจซึ่งเป็นอาชีพที่เขารัก มันก็หนักหนาสาหัสมากพอแล้ว”
พ.ต.ท.สันธนะ บอกด้วยว่า ที่ข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับบิ๊กโจ๊กกระจายกันออกมาเชื่อไม่ได้สักข่าว แต่ตัวโจ๊กรู้ดีที่สุดว่าเพราะอะไร ไปทำอะไรไว้
“อย่าไปฟังมากไอ้พวกข่าวลือไม่มีที่มา ที่ไป อยากจะลืออะไรก็พูดไปเรื่อยโดยไม่รู้ถึงข้อเท็จจริง ส่วนที่ว่าเขาไปสหรัฐอเมริกาจริงไหม ผมว่าคงไปแต่ชื่อ ตัวเขาก็อยากอยู่เงียบๆ ในเมืองไทยนี่แหละ เดี๋ยวรอดูว่าสิ้นเดือนนี้เขาจะมารายงานตัวรึเปล่า ถ้าไม่มาระบบราชการมันมีอยู่แล้วว่าต้องทำไงต่อไป ส่วนไอ้ที่ไปปล่อยข่าวว่าโจ๊กจะกลับมายิ่งใหญ่ผงาดกว่าเดิม ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วละ เหตุการณ์ความคลุมเครือวันนี้ยังไม่มีใครตอบได้ ฉะนั้นอย่าหวังว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ตามมาอีกเลย
พ.ต.ท.สันธนะ ทิ้งท้ายก่อนวางหูโทรศัพท์จากเราไปว่า “โจ๊กต้องใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ แบบนี้ต่อไป เอาเป็นว่า ถ้ามีโอกาสผมหวังจะได้เจอโจ๊กอีกครั้ง ส่วนวันนี้ฝากไปบอกเขาด้วยว่า ผมเป็นกำลังใจให้เสมอ และไม่คิดแค้นโกรธเคืองเรื่องที่ผ่านๆ มาเลย ในส่วนของแป๊ะ (พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา) ผมคงต้องหาโอกาสให้บทเรียนเขา เพราะสิ่งที่เขาทำกับผมมันไม่ถูก”
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ