กกต. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาธนาธร ปมถือหุ้นบริษัทสื่อ





คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต. กรณีมีผู้ร้องว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร โดย มอบให้เลขาธิการ กกต. ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและรับฟังพยานหลักฐาน ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง 2560 มาตรา 43

ลำดับความเป็นมาปม “หุ้นร้อน” ในมือธนาธร

22 มี.ค. : สำนักข่าวอิศราเผยแพร่รายงาน “‘ธนาธร-เมีย’ โอน บ.วี-ลัค มีเดีย 900,000 หุ้น ให้แม่ ก่อนเลือกตั้ง 3 วัน” โดยพบว่า นายธนาธร และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา ได้โอนหุ้นจำนวน 9 แสนหุ้น มูลค่า 9 ล้านบาท (นายธนาธรถือ 675,000 หุ้นคิดเป็น 15% และนางรวิพรรณถือ 225,000 หุ้น คือเป็น 5%) ให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ในวันที่ 21 มี.ค. 2562 หรือ 3 วันก่อนการเลือกตั้ง

23 มี.ค. : นายธนาธรนำตราสารโอนหุ้น ลงวันที่ 8 ม.ค. 2562 ขึ้นแสดงบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของเขา เพื่อยันว่า “ได้โอนหุ้นไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา 1 เดือนก่อนยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นทุกท่านจึงไม่ต้องกังวลว่าเราจะมีปัญหาทางกฎหมายในเรื่องนี้…” ขณะที่การสมัคร ส.ส. ของเขาเกิดขึ้นเมื่อ 6 ก.พ. 2562

25 มี.ค. : นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายธนาธร

27 มี.ค. : สำนักข่าวอิศราตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า มีการแจ้งโอนหุ้นของนายธนาธรเมื่อ 21 มี.ค. 2562 ไม่ตรงกับตราสารหุ้นที่นายธนาธรเปิดเผยต่อสาธารณะ อีกทั้งยังพบว่าการประชุมผู้ถือหุ้น 19 มี.ค. 2562 มีกรรมการ/ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม จำนวน 10 คน ทั้งที่น่าจะเหลือ 8 คน เนื่องจากนายธนาธรและภรรยาขายหุ้นออกไปแล้ว

29 มี.ค. : นายธนาธรเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง ยืนยันขายหุ้นให้มารดาตั้งแต่ 8 ม.ค. ก่อนบริษัทปิดกิจการ เพราะได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป พร้อมนำสื่อมวลชนไปยังบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 7 บนอาคารไทยซัมมิท เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทแห่งนี้ปิดกิจการไปแล้ว

2 เม.ย. : นายธนาธรออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยในจำนวนนี้ได้ชี้แจงเรื่องผู้ถือหุ้น 10 คน ว่าเป็นเพราะมารดาได้โอนหุ้นให้หลาน 2 คน ตั้งแต่ 14 ม.ค. 2562 ทำให้การประชุม 19 มี.ค. มีผู้ถือหุ้นคงเหลือจำนวน 10 คน ส่วนตัวยืนยันไม่ได้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นด้วย และ “มิได้มีพฤติการณ์ ‘ส่อพิรุธ’ ดังที่สื่อมวลชนบางฉบับพยายามชี้นำ”

4 เม.ย. : นายธนาธรให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเมื่อขายหุ้นไปแล้ว ทางบริษัทและมารดาจะไปทำอะไร “ไม่รู้เรื่องด้วย” และ “ไม่มีความเกี่ยวข้อง ก็ให้เป็นไปตามเอกสาร”

4 เม.ย. : กกต. มีมติตั้งคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนเพื่อดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน กรณีการกล่าวหานายธนาธรว่ามีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทสื่อ โดยมีนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล เป็นประธาน

5 เม.ย. : นายศรีสุวรรณ จรรยา เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต. กรณียื่นร้องให้สอบสวนและวินิจฉัยเพื่อส่งให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธร หลังพบพิรุธว่าการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย “อาจเป็นการอำพรางนิติกรรม”

22 เม.ย. : ประชุมคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนฯ เพื่อสรุปความเห็นเสนอต่อ กกต.

22 เม.ย. : เลขาธิการพรรค อนค. เปิดแถลงข่าวชิ้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ขณะที่ฝ่ายกฎหมายเข้ายื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ กกต.

ข่าวจาก : BBC

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: