จากกรณีคลิปวีดิโอที่เผยแพร่ในโลกโซเชียล ขณะตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งด่านตรวจในพื้นที่ และ ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว ได้เรียกตรวจรถคันหนึ่งตามปกติ ปรากฎว่าชายผู้ขับขี่อ้างว่าตนเองเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลแห่งหนึ่ง ไม่ยินยอมที่จะมอบใบขับขี่และอ้างว่าเป็นเพื่อนผู้กำกับโชค จนกลายเป็นดราม่าใหญ่โต ทำให้ “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ต้องเชิญผู้กำกับ สภ.ทุ่งใหญ่มาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว
จากรายการสัมภาษณ์สดดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากกว่าเดิม เพราะท่าทีของผู้กำกับฯ ปกป้องอธิบดี แต่ไม่มีความชัดเจนถึงลูกน้องตนเอง
11 พ.ค.62 เพจ ตอบปัญหาข้อกฎหมายกับ ดร.สุกิจ ออกมาอธิบายข้อกฎหมายถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว โดยมองว่า “กนก” อาจโดนผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยมีรายละเอียดดังนี้
กนก เนชั่นฯ จัดหนัก! ผมเพื่อนโชค
“กนก” มีสิทธิ์โดนจัดหนักคืน “ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา”
———////———
กรณี ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว
ขอตรวจใบขับขี่จากชายที่อ้างว่าเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่ขับรถเก๋งผ่านจุดตรวจในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นั้น
อ้างว่าเป็นเพื่อนกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเป็นเหตุให้ ผกก.ทุ่งใหญ่ถูกย้าย
สาเหตุเพียงน้ำผึ้งหยดเดียวอาจทำใหสื่อมวลชนอย่างนาย”กนก”เนชั่นที่ออกอาการแอ็คชั่นเหมือนตนเองเป็นผู้เสียหายนั้นเอง อาจโดนจัดหนักเอาคืน
นักกฏหมายบางคนที่กล่าวหา อธิบดีภาค 8 ว่าประพฤติไมสมควร โดยไม่ทราบข้อเท็จจริง
รวมทั้งบุคคลที่แชร์เฟรสบุ๊ค อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาทุจริต ฐานสนุบสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมื่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว มีออำนาจหน้าที่ตามกฏหมายที่จะขอดูใบขับขี่
แต่อำนาจนั้นมีขอบเขตของกฏหมาย. การปฎิบัติตามหน้าที่ต้องแจ้งเหตุให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ
ที่สำคัญ คือ เหตุนั้นต้องมีกฏหมายรองรับอำนาจไว้ด้วยไม่ใช่ ถือว่าเป็นตำรวจแล้วจะทำอะไรก็ได้
ศาลฎีกาได้วางหลักไว้ อำนาจของเจ้าหน้าที่ของตำรวจไว้เป็นฎีกาที่น่าสนใจ โดยชัดแจ้งว่า แม้ พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 42 บัญญัติไว้ว่า
ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถในขณะขับ เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที
แต่นั่นมิได้หมายความว่าให้อำนาจเจ้าพนักงานมีอำนาจเรียกตรวจสอบได้ทุกกรณี
เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจสอบได้เฉพาะมีเหตุสงสัยเท่านั้น ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้”
การใช้อำนาจเกินเลยของเจ้าพนักงานย่อม,ถูกปฏิเสธได้ เทียบตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8722/2555
เมื่อไม่มีเหตุอันควรสงสัยตามกฎหมายที่จะทำการตรวจค้นหรือขอดูใบขับขี่ได้ตำรวจอ้างว่ามีอำนาจตามกฏหมายนั้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ชายที่อ้างเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8. เห็นว่า ถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีสิทธิโต้แย้งและตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง
ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าวได้”
น่าเชื่อว่า “กนก”เนชั้น นักกฏหมายบางคนและผู้เผยแพร่ข่าวว่า อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริต ภาค8 เบ่ง กับตำรวจชั้นผู้น้อยนั้น
เป็นการจูงใจให้สาธารณะดูหมื่นผู้ถูกกล่าวหา ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาอีกกระทงหนึ่งนั้น
แท้จริงนั้น ผู้ใหญ่เค้าไม่รักแกเด็กหรอก. เพราะท่านเป็นผู้พิพากษาไม่พึงร้องเรียน กล่าวหา ฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีแก่บุคคล หนึ่งบุคคลใดโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ทั้งไม่พึงใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหาย แก่บุคคลอื่น
การร้องเรียน กล่าวหา ฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยอาศัย ประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ของตนจะกระทำ
ทำไม่ต้อง”เบ่ง”แค่มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้อง. ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้วกับพวกเป็นจำเลยต่อศาลถ้าท่านเห็นว่ามีเหตุสมควร
สังคมต้องตระหนักถึงสิทธิหน้าที่พลเมืองเพื่อป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียงของตนเองไม่ให้บุคคลที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงนั้น
เหยียดหยามได้
#กนกเนชั่นฯจัดหนัก
#ผมเพื่อนโชค
#หมิ่นประมาท
#อธิบดีภาค8
#หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
#โชคดีรักษ์วัฒนพงษ์
#ผกกสภทุ่งใหญ่
ทั้งนี้ ทนายคนดังกล่าวเคยเป็นข่าวดังมาแล้ว กรณีบุกรุกป่า และร่างทรง 4G (อ่านเพิ่มเติม : เผยนาที! “ทนายสุกิจ” ถูกล็อกคอ-กดนอนกับพื้น หลังขัดขืนระหว่างถูกแจ้งข้อหารุกป่า)
ขอบคุณข้อมูลจาก : ตอบปัญหาข้อกฎหมายกับ ดร.สุกิจ, posttoday, เรื่องเล่าเช้านี้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ