พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นำโดยหัวหน้าพรรค ดำรงค์ พิเดช เลขาธิการพรรค สันติภาพ อินทรพัฒน์ แถลงข่าวทบทวนการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยนายสันติภาพ บอกว่า ที่ผ่านมาพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ได้ร่วมโหวตประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี ในทิศทางเดียวกันกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะได้รับการทาบทามจากพรรคพลังประชารัฐ ที่จะให้เข้าไปทำงานเกี่ยวกับนโยบายด้านป่าไม้ ตามที่ได้หาเสียงกับประชาชนไว้ ซึ่งการแถลงข่าววันนี้ ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการต่อรองให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ
“การร่วมรัฐบาล ได้รับคำเชิญจากพรรคพลังประชารัฐ ให้ช่วยทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนตัวต้องการทำงาน จึงตอบรับร่วมรัฐบาล และร่วมโหวตประธานสภา นายกรัฐมนตรี แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการติดต่อเรื่องนโยบายของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ทำให้กลายเป็นพรรคตกสำรวจ” นายดำรงค์กล่าว
“การออกมาแถลงข่าวไม่ต้องการเรียกร้องเป็นรัฐมนตรี แต่แค่ต้องการเข้าไปช่วยทำงานขับเคลื่อนนโยบายเท่านั้น ดังนั้นขอเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐ ทบทวนว่าจะให้ตนเองเข้าไปทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ โดยหากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ไม่เปลี่ยนแปลง ยังให้โควต้าพรรคชาติไทยพัฒนา ก็จะตัดสินใจถอนตัว และจะประกาศเป็นฝ่านค้านอิสระ ที่สิ่งไหนดี ก็พร้อมสนับสนุน แต่ถ้าสิ่งไหนไม่ดี ก็ไม่เห็นด้วย”
นายดำรงค์ ยังบอกว่า หากให้เข้าไปทำงานในกรรมาธิการด้านทรัพยากรธรรมชาติ มองว่า ไม่มีประโยชน์ เพราะมีหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ได้ขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนหากพรรคชาติไทยพัฒนา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และเชิญให้ไปร่วมงานจะร่วมหรือไม่ ย้ำว่า ปกติจะไม่มีการปล่อยให้พรรคอื่นไปร่วมทำงาน แต่ถ้าพรรคชาติไทยพัฒนาติดต่อมาก็พร้อมพูดคุยหารือ
ในขณะเดียวกัน นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริการพรรคและส.ส.ของพรรคเพื่อพิจารณาคัดบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมมีมติเสนอบุคคล 7 รายชื่อ และขอไม่เปิดเผยรายชื่อ โดยเตรียมที่จะส่งให้นายกรัฐมนตรี ส่วนจะส่งเมื่อไหร่นั้นขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีจะเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งในการทำงานของพรรคหรือไม่ ยืนยันว่าการพูดคุยกันในพรรคเป็นการสะท้อนปัญหาและทิศทางการทำงานว่าบุคคลที่ได้รับมติจากพรรคให้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องนำนโยบายต่างๆของพรรคไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมากที่สุด ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นเอกภาพและเดินไปข้างหน้าอย่างเต็มที่
ส่วนกระแสข่าวให้มีการทบทวนตำแหน่งระหว่างนายนิพนธ์ บุญญามณี และนายจุติ ไกรฤกษ์นั้น ทุกอย่างท้ายที่สุดจะยุติที่มติของที่ประชุม ยืนยันขณะนี้ทุกอย่างแล้วการเสนอชื่อบุคคลทั้ง 7 รายชื่อเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนกรณีที่เกิดความไม่พอใจหรือไม่นั้น มองว่าการถกเถียงเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลแต่สุดท้ายต้องหยุดที่มติของที่ประชุม
นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณีที่ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ถูกยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาความเป็นสมาชิกภาพ กรณีที่ถือครองหุ้นสื่อ ว่า นายถวิล ไพรสณฑ์ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุมผู้ที่ถูกยื่นคำร้องโดยบุคคลที่ถูกยื่นคำร้องนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีการประกอบกิจการสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยจากนี้ให้ทุกคนไปเตรียมพยานหลักฐานเบื้องต้น และรอคำร้องจากศาลรัฐธรรมนูญก่อนเพื่อที่จะได้เป็นหลักในการทำคำชี้แจงต่อศาลต่อไปโดยในวันที่ 18 มิถุนายนนี้จะมีการเรียกประชุมส.ส.กลุ่มนี้อีกครั้ง
มีรายงานว่าสำหรับ 7 รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ประกอบด้วย
- 1. จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบกับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
- 2. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ
- 3. จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- 4. นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- 5.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
- 6.ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- 7. นายสาธิต ปิตุเตชะ มนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
อ่านเพิ่มเติม : https://www.bbc.com/thai/48645938?ocid=socialflow_facebook&fbclid=IwAR0eqy661xqEMYGymI5wyrYukIp8xT_0ZyRvQ23YkbZvXAlJIOkiG_LTt-c
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ