พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้บ่นว่า คำถามของนักข่าวส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับของเดิม แต่จะทำอย่างไรได้ เป็นนายกฯก็ต้องตอบ แต่จะตอบเท่าที่ตอบได้
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ดูรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีพอไปไหวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามกลับ ว่า ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก็เป็นการเลือกมาจากประชาชน และเมื่อเลือกเข้ามาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่จะมีการตรวจสอบ หลังที่มีการเสนอรายชื่อเข้ามา และที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหลายคนมีปัญหา ก็ต้องไปถามฝ่ายกฎหมายว่ามีการติดขัดตรงไหนจะเป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ ผิดกฎหมายหรือเปล่า
“แล้วถ้าไม่ผิด จะให้ผมทำอย่างไร ในเมื่อประชาชนเลือกกันมาทั้งหมดขึ้นอยู่ว่า เราจะร่วมมือกันอย่างไรในอนาคต และกฎหมายก็มีบรรทัดฐานไว้อยู่แล้วว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่าผิด หรือยังไม่ผิดอะไร หรืออยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบ ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเอาอะไรมาตีกันเยอะแยะจนวุ่นไปหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ความขัดแย้งเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาหรอก มีการหารือพูดคุยกันตลอด ถ้าทุกคนเป็นรัฐมนตรีกันหมดเป็นไปไม่ได้หรอก เป็นเรื่องของภาค และภายในพรรค ตนเข้าใจดีว่าเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ เพราะได้เลือกตั้งมาจากพื้นที่ แต่ปัจจุบันนี้รัฐบาลหารจากส่วนกลาง ไปสู่ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น มีคณะรัฐมนตรี มีกลไกหลายอย่างที่ต้องลงถึงพื้นที่ ทุกกลุ่มจังหวัด และทุกภาค ส.ส.มีส่วนร่วมในการเสนอความต้องการจากตรงนั้น รัฐบาลมีหน้าที่จัดสรรงบประมาณลงไป เพราะงบประมาณที่ลงไปสู่กลุ่มจังหวัดได้เพิ่มมากกว่าเดิมเยอะ แต่ต้องจัดลำดับความเร่งด่วน เมื่อตนลงพื้นที่ก็มีการร้องขอจากพื้นที่เข้ามาอีกระดับหนึ่ง จึงต้องมีการจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง หรือปรับงบของกระทรวง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
“ดังนั้น ผมไม่อยากให้ใครกังวลว่าถ้าไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วพื้นที่จะไม่ได้งบประมาณ ผมยืนยันว่าต้องได้ เพราะผมทำมา 5 ปีแล้ว และเกิดอะไรขึ้นมาเยอะแยะพอสมควร 5 ปีต่อไปก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมเยอะพอสมควร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะได้เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีเมื่อใด นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องรอ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ต้องทำให้เสร็จภายใน มิ.ย. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่สุดแล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าฯ ลงมาตอนไหน จากนั้นก็เข้าสู่การเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลต้องนิ่งแล้ว ไม่นิ่งได้อย่างไร เพราะมีแค่ 36 คน รวมนายกฯ จะเอาที่ไหนมาอีก จัดให้ได้ก่อน ใครที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีจะให้ช่วยทำงานตรงไหน
“ทุกคนเป็นห่วงว่า เอ๊ะตัวเองไม่มีบทบาทเป็นรัฐมนตรี แล้วจะเป็นรัฐมนตรีได้หมดไหมล่ะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เมื่อถามว่ามีคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบลากเสียงว่า “อืม…. ไม่เยอะ” เมื่อถามว่า จะควบ รมว.กลาโหมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ ยังไม่รู้ เดี๋ยวรอก่อน รอตัดสินใจอยู่ ท่าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม) เสียหายอะไรล่ะ ผมไม่ได้อยากอะไรสักอย่าง”
เมื่อถามว่า สถานการณ์วันนี้จำเป็นต้องควบ รมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้ เป็นอย่างไร เสียหายตรงไหนไม่รู้เหมือนกัน ถ้าควบแล้วจะได้อะไรขึ้นมาหรือแปล่า ผู้สื่อข่าวแย้งว่าจะได้คุมกองทัพ นายกฯ ตอบว่า “กองทัพเขาคุมกันเป็นระเบียบวินัย ไม่ต้องห่วงเขาหรอก”
เมื่อซักว่า พล.อ.ประวิตร มีปัญหาด้านสุขภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบนักข่าวว่า ว่า “เหรอ…เขาบอกคุณเหรอคะ ว่าจะถามต่อไปว่ารัฐบาลหน้าจะมีหรือเปล่า ใครอยู่ ใครไม่อยู่ใช่ไหม… ใจเย็น ฉันใจร้อนกว่าเธอ เธออย่ามาใจร้อนแข่งกับฉันสิ ใจเย็นลงบ้าง ถ้าเธอใจเย็นลงฉันก็ใจเย็นลง ฉันจะได้คิดงานข้างหน้า”
มื่อถามว่า โฉมหน้า ครม.หน้าตาหล่อไหม นายกฯ ถามกลับว่า “โฉมคืออะไร โฉมคือหน้าตา แล้วใครเลือกมา แล้วประชาชนเลือกมาเราไปกีดกันได้มากน้อยแค่ไหน” ผู้สื่อข่าวย้อนว่า แต่ประชาชนไม่ได้เลือกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า “แล้วคุณพูดเรื่องโควตา เรื่องสัดส่วนเอาที่ไหนมาพูด อะโธ่” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินออกจากโพเดียมไปยังตึกไทยคู่ฟ้า
ข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ, Wassana Nanuam
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ