วันนี้ (23 มิ.ย.62) พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.62) ว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเป็นกันเอง ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางบวก เพราะผู้นำทุกคนรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยทุกประเทศได้สนับสนุนและเห็นชอบกับหัวข้อการประชุมของไทยคือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันนโยบายที่ทุกประเทศต้องคิดในเรื่องการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต เพราะปัจจุบันภูมิภาคของเราต้องเผชิญความท้าทายหลายเรื่อง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ในการประชุมของผู้นำ จึงให้น้ำหนักไปที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ว่าทำอย่างไรให้อาเซียนมีภูมิคุ้มกัน และสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ โดยมีแนวคิดว่าเราต้องสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาค ไม่พึ่งพาคนอื่นมากเกินความจำเป็น และปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ ผู้นำจากหลายประเทศพูดถึงความจำเป็นในเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ขณะเดียวกัน ผู้นำเวียดนามได้ ระบุว่า อาเซียนต้องมีความเป็นเอกภาพ เป็นปึกแผ่น และไว้วางใจซึ่งกันและกัน นอกจากนั้น ทุกประเทศยังให้ความสำคัญในเรื่องการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซป) โดยผู้นำทุกประเทศเห็นพ้องกันว่าต้องพยายามเจรจาให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้อาเซียนมีความเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังไม่มีการลงรายละเอียด เพราะรายละเอียดอยู่ที่คณะทำงาน แต่ความคืบหน้าในที่ประชุมเป็นที่น่าพอใจ ไม่น่ามีอะไรยากลำบากมากนัก มีเรื่องที่ไม่เห็นพ้องต้องกันเพียงเล็กน้อย จึงต้องมีการปรับภาษาที่ใช้ในเนื้อหาสาระ และอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องจับตาในการประชุมครั้งนี้ หลัง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยหลังการเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ว่าที่ประชุมเห็นพ้องร่วมกันที่จะให้อาเซียนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในอีก 15 ปีหลังจากนี้ โดยจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุมระดับผู้นำอาเซียนพิจารณาในการประชุมวันนี้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ