เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำงานหลายเรื่องต้องรอการตัดสินใจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2563 ที่จะมีการปรับใหม่ให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงสอบเข้าเรียนต่อ 100% ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงการกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องด้วย ที่ต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการศธ. เห็นชอบ ขณะเดียวกันในส่วนของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ซึ่งตนเป็นประธานอยู่นั้น จะมีเรื่องการอนุมัติปริญญาหลักสูตรคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หลักสูตร 4 ปี ซึ่งต้องเสนอให้คณะกรรมการคุรุสภา ที่มีรัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธานพิจารณาเห็นชอบ
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการพัฒนาความเป็นครู ที่จะมาแทนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือป.บัณฑิต ที่จะยกเลิกในปีการศึกษา 2563 เนื่องจากมาตรฐานวิชาชีพครู มีการปรับปรุงใหม่ ดังนั้นหลักสูตรการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องปรับให้สอดคล้องตามไปด้วย ซึ่งหากหลักสูตรพัฒนาครูได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการคุรุสภา มหาวิทยาลัยต่าง ๆ สามารถไปเปิดสอนแทนหลักสูตร ป.บัณฑิตได้ทันที ทั้งนี้หลักสูตรดังกล่าวต่างจากหลักสูตรป.บัณฑิต ตรงที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน แต่หลักสูตรนี้ ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็สามารถสมัครเข้าเรียนได้ เมื่อเรียนจบ จะต้องสอบความเป็นครูกับคุรุสภา หากผ่านแล้วจะต้องไปฝึกปฏิบัติการสอนเป็นเวลา 1 ปี ก่อนสอบวิชาเอก เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยโครงสร้างหลักที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่จบวิชาชีพอื่น สามารถเข้าสู่เส้นทางความเป็นครู ที่คุรุสภาวางไว้จะเป็นแบบนี้ หากคณะกรรมการคุรุสภา ที่มีรัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นประธานเห็นชอบก็สามารถเดินหน้าต่อไปทันที
“ส่วนการเปลี่ยนจากใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เป็นใบรับรองความเป็นครู นั้น ยังไม่มีความคืบหน้า ต้องรอสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. จึงจะสามารถดำเนินการต่อได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้งานประจำที่ทำอยู่ยังไม่มีปัญหาหรือสะดุด เพราะงานส่วนใหญ่ที่รอให้รัฐมนตรีว่าการศธ. คนใหม่อนุมัติ จะเริ่มในปี 2563 ซึ่งบอร์ดกพฐ.จะหารือและสรุปเรื่องการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 12 กรกฎาคม ขณะที่ บอร์ดคุรุสภา จะประชุมเพื่อสรุปเรื่องต่าง ๆ วันที่ 5 กรกฎาคม หากได้รัฐมนตรีว่าการศธ. กลางเดือนกรกฎาคมนี้ ก็สามารถเสนอเรื่องให้พิจารณาได้ทันที เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะไม่มีเรื่องที่ขัดนโยบายรัฐบาลที่เคยได้หาเสียงไว้” นายเอกชัยกล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ