แม่ลูก6 ร้องสธ. รพ.ดังเมืองคอน ตรวจพลาด หาว่าเธอเป็นเอดส์ เสียเวลากินยาต้านถึง5ปี-จิตใจบอบช้ำหนัก





(3 ก.ค.62) ทนายความ พร้อมเหยื่อ ตรวจเอดส์ผิดพลาด ร้องสธ.ขอความเป็นธรรม หลังสังคมตีตราตั้งข้อรังเกียจ ติดเอดส์นาน 5 ปี ลูก 2 คน ต้องกินยาต้านไวรัสเอชไอวี 

นพ.พิทักษ์พล บุญยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 11 เป็นตัวแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับมอบหนังสือร้องเรียนจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานเครือข่าวรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนางมณีรัตน์ คงหอม ผู้เสียหายจากกรณีตรวจเอชไอวีผิดพลาด จาก รพ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าใจผิดว่าเป็นเอดส์นาน 5 ปี  

นางมณีรัตน์ กล่าวว่า ต้องการขอความเป็นธรรม เนื่องจาก รพ.ทุ่งสงตรวจเอชไอวี ผิดพลาด ทำให้สังคมเข้าใจตนและลูกผิด คิดว่าติดเชื้อเอชไอวีนานถึง 5 ปี และลูกทั้ง 2  คน ต้องรับยาต้านไวรัส. แต่สำหรับตนนั้นไม่ได้กินยาต้าน เนื่องจากท้อแท้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ และเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย 

สำหรับตนมีลูกทั้งหมด 6 คนกับ สามี 2 คน โดยไปคลอดลูกที่ รพ.ทุ่งส่ง ในลูกคนที่ 4 และ 5 แพทย์ระบุพบเชื้อเอชไอวีในเลือด  ทำให้ทั้งตนและลูกต้องรับยาต้าน แต่ตนไม่กินแต่ยังให้ลูกคนที่ 4-5 ทานยาอย่างต่อเนื่องมานาน 5 ปี ลูกแข็งแรงดี แต่ไม่รู้ว่า มีผลข้างเคียงในระยะยาวหรือไม่ ที่ผ่านมาชีวิตลำบาก เพราะถูกตีตราจากสังคมรอบข้างคนหากว่าป่วยเอดส์ ไม่กล้าไปรับลูกคนโตที่โรงเรียนและถูกเพื่อนล้อว่า แม่เป็นเอดส์มารับแล้ว  ลูกจึงไม่อยากให้เป็นรับอีก  

ขณะเดียวตนต้องทำงานก็จ้างคนเลี้ยง คนเลี้ยงก็รังเกียจลูกทั้ง 2 คน ข้างบ้านก็ไม่มีเด็กเล่นด้วย จนต้องย้ายครอบครัวไปพิษณุโลก และพบสามี คนที่ 2 และมีลูกคนที่6 และไปคลอดที่ รพ.พุทธชินราช โดยไม่ได้มีการฝากครรภ์และเมื่อคลอดถึงรู้ว่า ลูกไม่ติดเชื้อเอชไอวี และตนก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน ทางโรงพยาบาลก็มีการตรวจยืนยันอีก 3 ครั้งก็ไม่พบ จึงนำลูกอีก 2 คน คือ  คือคนที่ 4 และ 5 ไปตรวจ ก็ไม่พบเชื้อเอชไอวี  เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่าต้องการขอความเป็นธรรม อยากอยู่ในสังคม และอยากให้คนรอบข้างรู้ว่า ตนและครอบครัวไม่มีใครป่วยหรือติดเชื้อเอชไอวี นอกจากนี้อยากให้กระทรวงสาธารณสุข ถอดชื่อตนและลูก ออกจากบัญชีผู้ติดเชื้อ

ขณะเดียวต้องการให้โรงพยาบาลแสดงความรับผิดชอบ หลังจากที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลระบุว่าจะจ่ายเงินเยียวยา 50,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ จน กระทั่งมาร้องศูนย์ดำรงธรรม ก็เงียบ จึงได้มาร้องต่อสภาทนายความ 

อย่างไรก็ตามคำชี้แจงของโรงพยาบาลที่ผ่านมาระบุว่าเป็นความผิดพลาดของเครื่องมือในการตรวจไม่ใช่แพทย์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็คิดว่า น่าจะมีคนที่เป็นลักษณะคล้ายตนอีกในพื้นที่ 

นพ.พิทักษ์พล กล่าวว่า ขณะนี้ประสาน รพ.ทุ่งสง ให้ส่งข้อมูลมาให้กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าจะรู้ผลไม่นาน เบื้องต้นจะไม่ดูว่าใครถูกผิด แต่จะรับผิดชอบชดเชยให้กับผู้เสียหายก่อน โดยใช้มาตรการเยียวยาตาม ม.41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ซึ่งจะมีคณะกรรมการฯพิจารณา

ข่าวจาก : สำนักงานข่าวไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: