เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลายคนคงอยากถามว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่เมื่อใด ขอให้ใจเย็นๆนิดนึง เพราะคงเร็วๆนี้ ส่วนขั้นตอนต่อไปจะเป็นการทำเรื่อง ขอวันเวลาในการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน เชื่อว่าคงไม่เกินกลางเดือนนี้ ขอยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐบาล
รับนโยบายทุกฝ่ายมาพิจารณา
“หลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว ผมตั้งใจที่จะคุยกับคณะรัฐมนตรีสักครั้งหนึ่งก่อน เหมือนเป็นการปฐมนิเทศ พบปะหารือ พูดคุยกันถึงแนวทางการทำงาน และคงใช้เวลาไม่มากนัก วางแผนไว้ว่าหลังพิธีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ข้อสำคัญจะต้องพิจารณาร่วมกันในเรื่องนโยบายของรัฐบาล อย่างวันนี้ได้มีการหารือในระดับของพรรคการเมืองต่างๆไปบ้างแล้ว ว่าจะมีความสอดคล้องกันอย่างไร ไม่ใช่จะเขียนแค่ของตัวเองอย่างเดียว ซึ่งทำไม่ได้ จึงต้องเป็นนโยบายของพรรคการเมืองทั้งหมด
“แต่ผมก็บอกว่า ให้เอานโยบายของพรรคฝ่ายค้านมาดูด้วย ว่ามีเรื่องใดที่ตรงกันบ้าง ซึ่งบางอย่างก็ทำไปบ้างแล้ว แต่อาจจะได้ไม่มากเท่าที่ต้องการ หรือที่หาเสียงกันมา ซึ่งก็เห็นใจอยู่ แต่เมื่อเราเป็นรัฐบาลแล้วทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณ เพราะเรามีหลายพรรคการเมืองที่รวมกัน เชื่อมั่นว่าทุกพรรคการเมืองรักชาติและประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของงบประมาณ ทุกคนทราบดีว่า พรรคการเมืองมีการหาเสียงไว้ ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้ขัดข้อง แต่วันนี้ยืนยันว่า ได้เอานโยบายของทุกพรรคมาดู ทั้งของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน เพราะถือว่ารัฐบาลเป็นของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ทั่วถึงและเป็นธรรม ที่สำคัญที่สุด จะทำอย่างไรให้งบที่ใช้จ่ายด้านบุคลากรนั้นน้อยลง จึงได้สั่งการให้ ก.พ.และ กพร.ไปพิจารณาแผนบรรจุข้าราชการประจำปีใหม่ โดยสั่งให้เร่งทำแผนและศึกษาก่อนมานำเสนอตนตนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะต้องมีการเกลี่ยอัตรากำลังที่เกษียณอายุราชการ โดยต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม
ฝากฝ่ายค้านเลิกตีรวนงบประมาณ ปชช.เสียประโยชน์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ส่งผลต่อนโยบายนั้น ยืนยันว่าไม่มีผลอะไร เพราะเราได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว หน่วยงานต่างๆสามารถใช้งบประมาณปี 2562 ได้ก่อน เพราะมีการตั้งงบประมาณไว้ไม่เกิน 50% ของวงเงินงบประมาณปี 2562 ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่าฝ่ายค้านจะตีรวนเรื่องดังกล่าว เพราะคนที่จะเสียผลประโยชน์คือประเทศและประชาชน ซึ่งจะเดือดร้อนไปทั้งหมด ดังนั้น ใครที่คิดจะตีรวนในเรื่องนี้ ขอให้ใคร่ครวญให้ดี และอยากบอกประชาชนโดยว่า ทุกอย่างจะทำไม่ได้ทั้งหมด ถ้างบประมาณไม่ผ่าน จึงขอให้คำนึงผลประโยชน์ของชาติ อย่าให้เป็นประเด็นทางการเมืองมากนัก
เมื่อถามว่ารู้สึกเหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เหนื่อย ชินแล้ว ผ่านมา 5 ปีแล้ว ถ้าจะมีก็ใจนี่แหละ เพราะอยากทำงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และคิดว่าได้ทำเต็มที่แล้ว ในเรื่องของแนวคิดนโยบายและหลักการต่างๆ แต่บางอย่างยังติดขัดด้วยกฏหมายและงบประมาณ จึงอยากทำให้เร็วในทุกเรื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคนไทยด้วยกันเองต้องคำนึงถึงการพูดและการแสดงความคิดเห็น ทั้งในและต่างประเทศ จะต้องนึกถึงคำว่าประเทศไทย เพราะเราเป็นประเทศอิสระมาช้านาน ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในกระบวนการภายในของเรา โดยเฉพาะข้อกฎหมาย ถ้ามันใช่ ก็พอรับได้ แต่ถ้าไม่ใช่ แล้วพูด ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง บิดเบือน ก็อย่าทำให้ประเทศเสียหาย ทำให้ความเชื่อมั่นลดน้อยลง
“วันนี้เราได้รับการยอมรับจากต่างประเทศพอสมควรเพราะเห็นจากผลงานและการปฏิบัติหน้าที่มาตลอดห้าปี หลายอย่างเราทำได้ดีถือเป็นการปฏิรูปที่ไม่ได้รับการแก้ไขมานาน ต่างประเทศเขาพอใจตรงนี้ แต่คนของเราเองอาจจะไม่เข้าใจว่ามีการปฏิรูปแล้วหรือยัง เพราะการปฏิรูปการเมืองไม่ใช่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมือง จะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพของตัวเองด้วย
“ขอร้องว่าอย่าใช้เวทีสภามาเป็นเรื่องด้อยค่า หรือล้มรัฐบาล ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชน เพราะถือว่าสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ทุกอย่างก็จะพัฒนาต่อไปไม่ได้ การที่รัฐบาลกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ประเทศด้านต่างๆนั้น ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ แต่สืบทอดการแก้ไขปัญหาที่ทุกคนมีส่วนร่วม”
เมื่อถามว่าหลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วจะสามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
เมื่อถามว่ามีความคิดเห็นอย่างไรที่มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวางมือทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า “ไปถามเค้าสิ”
ด้าน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับการประชุม ครม.นัดสุดท้ายนั้น บรรยากาศเป็นไปตามปกติ โดยนายกรัฐมนตรีได้ถือโอกาสขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมา และขอบคุณในความตั้งใจที่จะพัฒนาและแก้ไขปัญหาประเทศ และบอกว่า ทุกคนไม่ได้หายกันไปไหน แต่มีสิทธิ์ที่จะชี้แนะ นำเสนอเรื่องต่างๆต่อรัฐบาลใหม่ได้ หากเจอกันก็ขอให้ทักทายอย่าคิดว่าเป็นคนอื่น จากนั้น ครม.ได้ร่วมกันถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึก
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ