นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึง การจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิ.ย. 2562 ว่า มีจำนวน 5,586 รายลดลง 356 ราย หรือ 6% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 2562 จำนวน 5,942 ราย แต่เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 2561 จำนวน 6,514 ราย ลดลง 928 ราย คิดเป็น 14% ทั้งนี้ ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 497 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 328 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร 168 ราย คิดเป็น 3% มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิ.ย. 2562 จำนวน 15,147 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 2562 จำนวน 35,218 ล้านบาท ลดลง 20,071 ล้านบาท คิดเป็น 57% และเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 2561 จำนวน 24,589 ล้านบาท ลดลง 9,442 ล้านบาท คิดเป็น 38%
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ 38,222 ราย เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2561 (ก.ค.-ธ.ค.) 34,561 ราย เพิ่มขึ้น 3,661 ราย คิดเป็น 11% และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2561 จำนวน 37,548 ราย เพิ่มขึ้น 674 ราย คิดเป็น 2% ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,327 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,212 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 1,020 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรกของปี 2562 จำนวน 117,756 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2561 จำนวน 231,412 ล้านบาท ลดลง 113,656 ล้านบาท คิดเป็น 49% และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2561 จำนวน 142,872 ล้านบาท ลดลง 25,116 ล้านบาท คิดเป็น 18%
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนมิ.ย. 2562 มีจำนวน 1,264 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. 2562 จำนวน 1,130 ราย เพิ่มขึ้น 134 ราย คิดเป็น 12% และเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 2561 จำนวน 1,392 ราย ลดลง 128 ราย คิดเป็น 9% ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 115 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 87 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 47 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ
ขณะที่ธุรกิจเลิกประกอบกิจการครึ่งปีแรก 2562 จำนวน 6,667 ราย เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2561 จำนวน 15,486 ราย ลดลง 8,819 ราย คิดเป็น 57% และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2561 จำนวน 6,289 ราย เพิ่มขึ้น 378 ราย คิดเป็น 6% ส่งผลวันที่ 30 มิ.ย. ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 737,252 ราย มูลค่าทุน 16.79 ล้านล้านบาท
“สาเหตุการจดทะเบียนเดือนมิ.ย.ลดลง มาจากปัญหาไม่มั่นใจเศรษฐกิจ และรอดูความชัดเจนตั้งรัฐบาลใหม่ รวมทั้งปัญหาสงครามการค้า ราคาน้ำมัน ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ดังนั้น แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจเมื่อประเมินจากอัตราการเติบโตของจีดีพีและแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตามฤดูกาล พบว่าปกติจะมีการจัดตั้งธุรกิจสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองยังถือเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการจัดตั้งธุรกิจไตรมาส 3 และ 4 พร้อมทั้งยังจะมีมาตรการส่งเสริมด้านต่างๆ จากรัฐบาลที่จะออกมาจะทำให้ยอดการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทนิติบุคคลรายใหม่ทุกสาขาเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้จะมียอดเกินกว่า 70,000 รายทั่วประเทศได้แน่นอน” นางโสรดา กล่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ