“สมคิด” เรียกคลัง-แบงก์รัฐเตรียมแพ็กเกจ “ยาแรง” ดูแล ศก. ทุกระดับตั้งแต่เกษตรกร-โชห่วย-เอสเอ็มอี “อุตตม” แย้ม “มนุษย์เงินเดือน” ได้อานิสงส์ด้วย ยังไม่ฟันธงปัดฝุ่นแจกเงินท่องเที่ยว 1,500 บาท
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (5 ส.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมบัญชีกลาง และ สถาบันการเงินของรัฐ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเป็นการหารือแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งต้องเฝ้าระวังความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้นอย่างค่อนข้างชัดเจน
“เรามาหารือกันแต่เนิ่น ๆเพื่อไม่ประมาท เพราะเราต้องการให้เศรษฐกิจของไทยเดินหน้าไปได้ แม้ว่าอาจจะมีผลจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกก็ตาม ซึ่งประเมินแล้ว เราน่าจะมีการเตรียมการชุดมาตรการออกมา โดยจะมีการดำเนินการต่อ และ มาตรการจะเสร็จออกมาภายในเดือน ส.ค.นี้แน่นอน”
รวมถึงมาตรการที่ออกมาจะเป็นแพ็กเกจใหญ่ ที่ต้องมีอิมแพ็ก (ผลกระทบ) ในระดับที่เห็นผลได้เต็มที่ หรือเป็นยาแรง
“มาตรการออกมาต้องแรง แต่ไม่ใช่แรงเพราะว่าสถานการณ์น่าห่วงเกินเหตุ เพียงแต่ผมบอกว่า ทำแล้วก็ต้องหวังผลให้ได้ผลจริงจัง ส่งผลต่อเศรษฐกิจในเชิงบวก” นายอุตตมกล่าว
นายอุตตม กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องการดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งประชาชนทั่วไปตั้งแต่ฐานราก เกษตรกร ผู้ค้าขายในระดับชุมชน ผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง (เอสเอ็มอี) และ มนุษย์เงินเดือน ซึ่งทางหน่วยงานต่าง ๆของกระทรวงการคลังจะกลับไปดำเนินการต่อ โดยยังจะต้องมีการหารือกับหน่วยงานอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง และ ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดยก่อนหน้านั้นอาจจะต้องเสนอ ครม.เศรษฐกิจพิจารณาก่อนด้วย ส่วนจะเข้า ครม. ทันสัปดาห์หน้าหรือไม่ ยังระบุไม่ได้ในขณะนี้ ขึ้นกับการจัดทำรายละเอียด
“มาตรการที่จะทำ ก็จะมีทั้งส่วนที่ใช้งบประมาณ และ บางส่วนอาจจะไม่ต้องใช้ หรือใช้น้อยมากก็มี ส่วนวงเงินทั้งหมดจะเป็นเท่าไหร่ยังไม่ได้มีรายละเอียด วันนี้เป็นการหารือกันก่อนว่าแนวทางควรจะเป็นอย่างไร อย่างกลุ่มเกษตรกรที่เจอภัยแล้ง ต้องตระหนักว่าผลกระทบจากภัยแล้งเกิดขึ้นแล้ว วันนี้ก็จำเป็นต้องดูแล ก็ต้องประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย
ส่วนผู้ค้าขายกลุ่มเอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี ร้านค้าชุมชน โชห่วยทั้งหลายก็ต้องดูแล เอสเอ็มอีที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว ครอบคลุมทั้งตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งต้องหารือกับผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้วย” นายอุตตมกล่าว
ส่วนการแจกเงินท่องเที่ยว 1,500 บาทนั้น รมว.คลัง กล่าวเพียงว่า ยังบอกไม่ได้ ต้องรอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปพิจารณาก่อน
สำหรับงบประมาณที่ต้องใช้ทั้งหมด รมว.คลัง กล่าวว่า คงต้องรอสรุปมาตรการที่จะทำออกมาก่อน ซึ่งแม้ว่าการจัดทำงบประมาณปี 2563 จะล่าช้า แต่ยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินการภายใต้กรอบงบประมาณที่มีตามกฎหมาย ขณะที่การสนับสนุนในด้านสินเชื่อทางสถาบันการเงินเฉพาะกิจก็จะมีมาตรการออกมา ซึ่งรัฐจะพิจารณาอุดหนุนในบางกรณี ขึ้นกับความเหมาะสม และต้องอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ