“ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” สั่งโละนโยบายซ้ำซ้อน คาดชัดเจนก.ย.นี้ พร้อมเตรียมบรรจุ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ว่างกว่า 4 พันอัตรา ลากยาวไปจนถึงภารโรง-แม่ครัว
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) นัดแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ก.ค.ศ. ซึ่งมีการทำงานมาพอสมควร มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการพัฒนาการศึกษาไทยตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ได้หารือว่าอาจจะต้องนำบางเรื่องกลับไปพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับสิ่งที่ทำมา ก่อนจะประกาศเป็นนโยบายใหม่ โดยตนได้นัดหารือกับคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ร่วมกันอีกครั้งภายในต้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อชี้ให้เห็นประเด็นว่าในส่วนใดที่ต้องกลับมาทบทวน เพื่อลดความซ้ำซ้อน ซึ่งรวมถึงการวางแผนการบริหารจัดการบุคลากรด้วย เพื่อให้การบริหารงานของกระทรวงศึกษาธิการเกิดประสิทธิภาพ
นายณัฏฐพล กล่าวว่า ส่วนการบรรจุผู้บริหารสถานศึกษาที่ยังว่างอยู่กว่า 4,000 อัตรานั้น เป็นข้อมูลที่จะหารือในต้นเดือนกันยายนนี้ คาดว่าจะมีภาพชัดเจนถึงโครงสร้างโรงเรียนในแต่ละจังหวัด และแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา หลังจากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดมากางดูให้เห็นชัดเจน ทั้งเรื่องการบรรจุแต่งตั้งบุคลากร ทั้งตำยแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน ครู ครูผู้ช่วย ครูธุรการ รวมถึงแม่ครัว ภารโรง จะต้องมาดูว่าขาดในตำแหน่งใด ในพื้นที่ส่วนไหน ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นที่จะต้องควบรวมโรงเรียนบ้างบางส่วน เพื่อให้มีโรงเรียนที่มีคุณภาพ และมีโรงเรียนเข้าสู่โรงเรียนที่มีคุณภาพ อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้มีการใส่บุคลากรเข้าไปซ้ำซ้อน แล้วต้องมาหาวิธีเยียวยาในภายหลัง โดยเน้นหลักการสำคัญว่าจะต้องไม่ลิดลอนสิทธิที่พึงจะได้ของครู และผู้บริหารในการปฏิบัติงานข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายจากนี้ทางคณะกรรมการก.ค.ศ. ไปพิจารณา และนำกลับมาหารือร่วมกันอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้
นายณัฏฐพล กล่าวด้วยว่า ส่วนแนวทางที่ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกควบรวม ไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนอนุบาลนั้น ต้องรวบรวมข้อมูลแต่ละพื้นที่ให้เห็นภาพกว้าง โดยคำนึงถึงคุณภาพในการจัดการศึกษาเป็นสำคัญ ทั้งนี้ การดำเนินการใดต้องดูภาพรวมทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกควบรวม ไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนอนุบาลทั้งหมด ต้องพิจารณาความสามารถในส่วนอื่นด้วย แต่ในส่วนนั้นเป็นพื้นที่ที่กระทรวงศึกษาธิการวางไว้ เพื่อสนับสนุนการศึกษาในระดับปฐมวัยที่จะมีการผลักดันให้มากที่สุด โดยต้องดูข้อมูลตัวเลขทั้งหมด แล้วมาพิจารณาร่วมกัน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ