รมช.คลังตอบกระทู้ยืนยันจะมีการสำรวจทำบัตรสวัสดิการรัฐเพิ่ม สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ตกหล่นแน่นอน
(21ส.ค.62) นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่อการสำรวจประชาชน เพื่อมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ว่า กระทรวงการคลัง มีมาตรการสำรวจให้ประชาชน ที่ตกสำรวจการลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ซึ่งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยัน จะยังมีการสำรวจเพิ่มเติม สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ยังตกหล่นแน่นอน เพราะยังประชาชนที่มีรายได้น้อยจากกลุ่มต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน โดยขณะนี้ มีผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้ว ราว 14 ล้านคน
ทั้งนี้ การตั้งกระทู้ถามนี้ ท่ามกลางการจับตา เป็นที่น่าสังเกตว่า จะเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ทั้งที่เป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ นายครูมานิตย์ ก็ได้ไปต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ในวันนี้นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ตอบกระทู้สดแทน เนื่องจาก ในวันนี้ นายกรัฐมนตรี มีภารกิจเป็นประธานพิธีปิดการฝึกปฏิบัติทางทะเล ของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในนามของผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่จังหวัดระยอง
ขณะที่ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายสุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวศ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เรียกร้องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรลาออก เพื่อรับผิดชอบต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ผิดขั้นตอน โดยระบุว่า ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องดำเนินการในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และในขั้นตอนการเสนอชื่อ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่ ก็มีส.ส. รับรองถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
นายสุกิจ ระบุด้วยว่า เมื่อพรรคเสรีรวมไทย ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้วินิจฉัยแล้ว ก็ควรยุติการพูดเรื่องดังกล่าว และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาได้แล้ว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ