“ธรรมนัส” เดินเครื่องลุยจัดระเบียบตลาด อ.ต.ก. ใช้โมเดลแก้ปัญหาตลาดคลองเตย ปราบ มาเฟียตลาด อ.ต.ก. ย้ำตลาดนี้ต้องเป็นตลาดของเกษตรกรอย่างแท้จริง เผยหากพบผู้ค้าในตลาดใช้นอมินีถือแผงค้าแทน จะยึดแผงคืนทันที สั่งตั้ง อ.ต.ก. 77 จังหวัด จำหน่ายสินค้าเกษตรทั่วประเทศ พร้อมบุกตลาดต่างประเทศเพื่อส่งออกสินค้าเกษตร ตั้งเป้ามูลค่าสินค้าขายผ่าน อ.ต.ก.โต 2 หมื่นล้านต่อปี ในปี 2564
ผู้ค้าใน อ.ต.ก.สะเทือนแน่ ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในระหว่างการตรวจเยี่ยมองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรหรือ อ.ต.ก. เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ว่า ในฐานะที่มีประสบการณ์การทำตลาดมาหลายแห่ง จึงจะนำโมเดลกวาดล้างมาเฟียตลาดคลองเตย มาใช้กับตลาด อ.ต.ก. เพื่อให้ตลาด อ.ต.ก.สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์เป็นตลาดเพื่อเกษตรกรอย่างแท้จริง เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าเพื่อเกษตรกร ดังนั้น ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนมาบริหาร ต้องตอบโจทย์นี้ให้ได้ ช่วยเหลือด้านการตลาดสินค้าเกษตร การเจรจา การจำหน่าย การเก็บรักษาสินค้าเกษตร หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
ผู้ค้าจริงต้องเป็นผู้ถือสัญญากับ อ.ต.ก.โดยตรง ไม่ใช้ตัวแทนถือสัญญา (นอมินี) โดยสั่งการให้ อ.ต.ก.ตรวจสอบ หากพบว่าแผงค้าใดใช้นอมินี จะยึดแผงคืนทันที เพราะความจริงควรมี 1 คนต่อ 1 แผง
“ในเรื่องของการบริหารตลาด ผมเป็นเจ้าของตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ผมเคยเป็นผู้บริหารตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท ถึงมาทำตลาดคลองเตย ผมรู้ว่าจะบริหารอย่างไร ผมเคยจัดการกับมาเฟียตลาดคลองเตย ที่มีแผงค้ากว่า 10,000 แผง สามารถกวาดล้างมาเฟียได้ภายใน 6 เดือน ส่วน อ.ต.ก. มีร้านค้าเพียง 608 แผง จึงคาดว่าจะทำได้รวดเร็วกว่า ได้ให้ อ.ต.ก. ขึ้นทะเบียนผู้ค้าใหม่รอไว้ หากตรวจพบแผงที่ทำผิด หรือใช้นอมินี จะได้นำแผงที่ยึดคืนไปให้กับผู้ที่ขึ้นทะเบียนมาเป็นผู้ขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก.รายใหม่ต่อไป” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวต่อว่า จากนี้ไปจะปรับบทบาทของ อ.ต.ก.ให้เป็นผู้ดำเนินการตามนโยบายการตลาดนำการผลิต โดยจะให้มีตลาด อ.ต.ก.ครบทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเป็นตลาดรองรับสินค้าของเกษตรกรให้ได้มากที่สุด รวมทั้งทำหน้าที่ติดต่อตลาดในต่างประเทศเพื่อส่งออก อ.ต.ก.จะเป็นผู้ที่กำหนด หรือไปบอกกับเกษตรกรว่า ให้ปลูกพืชเกษตรชนิดใดที่ตลาดต้องการ เพราะหากรัฐบาลยังเดินหน้าประกันรายได้เกษตรกร คงไม่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นแบบยั่งยืน เพราะตลาดสินค้าเกษตร หรือตลาดสินค้าต่างๆมีพ่อค้าคนกลาง
รมช.เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า จากนี้ต่อไป อ.ต.ก.จะต้องเป็นตัวกำหนดทิศทางและอนาคตของเกษตรกร ให้กินดีอยู่ดี ไม่ต้องไปหวังพึ่งแต่กระทรวงพาณิชย์ โดย อ.ต.ก.ต้องนำการตลาดให้เกษตรกรเอง ภายใต้เป้าหมายที่มีมูลค่าการค้าขายสินค้าเกษตรมากกว่า 20,000 ล้านบาท/ปี ในปี 2564 สินค้าที่ออกจากตลาด อ.ต.ก.ต้องเป็นสินค้าเกรดเอ เป็นสินค้าที่ไม่เหมือนกับสินค้าในตลาดทั่วๆไป เป็นสินค้าที่ทำให้ พี่น้องเกษตรกรมีมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ เกษตรชีวภาพ เกษตรแปรรูป ไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมและส่งเสริมคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน อ.ต.ก.ต้องปรับตัวเองในการทำการค้าแบบออนไลน์ด้วย
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวด้วยว่า สำหรับกรมพัฒนา ที่ดิน และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้สั่งให้ร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีหมอดินจะผลิตปุ๋ยสั่งตัด เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร มี อ.ต.ก. เป็นช่องทางขายให้เกษตรกรทั่วประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ในที่ดิน ส.ป.ก.นำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่ ไม่ ไปใช้ปุ๋ยสูตรสำเร็จรูปจากโรงงานซึ่งไม่เหมาะกับที่ดินต้องการ ส่วนกรมการฝนหลวงได้บอกไปแล้วว่าไม่สนหลักการเพราะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ สนใจแต่ “หลักกู” ฉะนั้น ตนเดินทางไปจังหวัดไหนฝนต้องตก เพื่อให้การเกษตรได้ผลผลิตดี
ขณะที่นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า ผู้ค้าในตลาด อ.ต.ก.มีจำนวนมาก ที่มีแผงค้าในตลาดที่เป็นกิจการค้าเดียวกัน แต่มีแผงมากกว่า 20 แผง ถือว่าผิดสัญญาในการเป็น ผู้ค้ากับ อ.ต.ก. เพราะตามสัญญา อ.ต.ก.กำหนดให้ผู้ค้ามีแผงได้เพียงไม่เกิน 3 แผง/ราย และไม่สามารถนำแผงไปเช่าช่วง หากพบผิดเงื่อนไขจะยึดคืนเพื่อไปเปิดให้กับผู้สนใจ ที่ขณะนี้มีกว่า 200 รายที่ต้องการแผงค้าของ อ.ต.ก.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเดินตรวจตลาด อ.ต.ก.ของ ร.อ.ธรรมนัส มีบรรดาผู้ค้ามาต้อนรับและร้องเรียนเรื่องของที่จอดรถในตลาด อ.ต.ก.ที่มีไม่เพียงพอ จนทำให้บรรดาลูกค้าหายไปและยอดขายลดลงจากปกติ โดยระบุว่าเป็นเพราะผู้บริหารตลาด อ.ต.ก.นำพื้นที่ไปทำตลาดน้ำ จัดพื้นที่บางส่วนของที่จอดรถให้กับเกษตรกรมาขายของ ตลอดจนร้องเรียนในเรื่องของค่าเช่าแผงค้าที่สูงขึ้นจากเดิมถึง 30% ด้วย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ