นับเป็นข่าวสะเทือนขวัญของสังคม กรณีการพบศพของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน แกนนำในการเคลื่อนไหวร่วมกับชาวบ้านในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่หายตัวไปอย่างปริศนาในปี 2557 หลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก่อนจะมาพบศพในถังน้ำมัน ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562
สำหรับ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ชายหนุ่มกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายกะเหรี่ยง เกิดที่บ้านบางกลอยบน จ.เพชรบุรี เป็นหลานชายของปู่คออี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธุ์บางกลอยบนแห่งผืนป่าแก่งกระจาน หรือที่รู้จักกันในนาม “ใจแผ่นดิน” โดยบิลลี่ทำหน้าที่เป็นล่ามในการผลักดันการทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าตัวเรียนหนังสือและสื่อสารภาษาไทยได้ ก่อนหายตัวไป บิลลี่ทำงานเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ด้านชีวิตคู่ บิลลี่แต่งงานกับนางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มีนอ มีบุตรด้วยกัน 5 คน บิลลี่ไม่มีที่ดินทำกิน ภายหลังจากที่ถูกบังคับให้อพยพออกมาจากพื้นที่ดั้งเดิม จึงต้องออกไปรับจ้างเฝ้าสวน ส่วนภรรยามีอาชีพรับจ้างรายวันทั่วไป
บิลลี่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดของตนเอง ซึ่งบิลลี่ถือเป็นพยานปากสำคัญ และเป็นผู้ประสานงานในคดีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่บุกเผาทำลายทรัพย์สินตั้งแต่ปี 2553-2554 ก่อนจะหายตัวไปในวันที่ 17 เมษายน 2557
เมื่อวานนี้ (3 กันยายน 2562) คุณเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงราย และเป็นนักพัฒนาสังคม ปัจจุบันเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Tuenjai Deetes บรรยายเรื่องราวของบิลลี่ หนุ่มนักสิทธิมนุษยชน กำลังหลักในการต่อสู้เพื่อชาวกะเหรี่ยง ว่า บิลลี่พยายามจะสื่อสารเรื่องราวของชาวกะเหรี่ยงแห่งป่าแก่งกระจาน โดยหลายช่องทาง รวมทั้งผลิตสารคดีเพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ปู่คออี้และลูกหลานชาวบางกลอยบน “ใจแผ่นดิน” จำนวน 30-40 ครอบครัว ถูกบังคับโดยเจ้าหน้าที่อุทยาน ให้อพยพลงมาจากบ้านเดิม ด้วยการเผาบ้านและยุ้งฉาง แล้วอุ้มปู่ใส่ ฮ. ลงมาอยู่ที่บ้านโป่งลึก
ในรอบ 5 ปีนี้ เธอได้ไปบ้านบางกลอยล่าง (โป่งลึก) ไปดูสภาพความเป็นอยู่และที่ทำกินของชาวบ้านที่ถูกอพยพลงมาในช่วงแรก ๆ เห็นว่าพื้นที่ทำกินที่จัดให้ชาวบ้านเป็นที่ไม่เหมาะสม จึงเพาะปลูกไม่ได้ผล ข้าวและอาหารขาดแคลน ชาวบ้านหลายคนหน้าตาซูบซีด เครือข่ายกะเหรี่ยงจึงจัดผ้าป่าระดมทุนหาข้าวและอาหารมาช่วยเป็นประจำ
ทุก ๆ ครั้งจะไปกราบคารวะ สนทนาเรียนรู้ภูมิปัญญาอันเปี่ยมด้วยธรรมะกับปู่คออี้
ปู่พูดเสมอว่า อยากกลับไปอยู่ที่บ้านใจแผ่นดิน การถูกอพยพลงมาที่บางกลอย ต้องมาพึ่งพา มาขอแบ่งพื้นที่ทำกินของคนที่เขาอยู่เดิม อากาศก็ร้อน อยู่แล้วไม่สบาย
เธอได้เยี่ยมภรรยาของบิลลี่ คือ มีนอ กับลูกทั้ง 5 คน ผู้สูญเสียสามีและพ่อไปโดยไม่มีร่องรอยให้สืบค้นได้ มีนอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ได้ปลูกฝังลูกทั้ง 5 คน ให้อภัยต่อคนที่ทำร้ายพ่อ ให้กฎแห่งกรรมได้ทำหน้าที่ ลูก ๆ จึงทำใจได้
ขอบคุณข้อมูลจาก theway, เตือนใจ ดีเทศ, ThaiPBS
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ